เปิดตัวในไทยเรียบร้อยและเริ่มวางขายในไทยอย่างเป็นทางการสำหรับ Fujifilm X-T4 กล้องระดับ semipro ที่มีการต่อยอดจาก X-T3 กล้องระดับเดียวกัน สำหรับกล้องตัวใหม่มีข้อชูโรงหลักในเรื่องของการถ่ายวีดีโอที่ดีขึ้น ตอบโจทย์มากขึ้นด้วยเซนเซอร์ขนาด 26MP ถ่ายวีดีโอความละเอียด 4K 60p
คุณสมบัติสำคัญ
- 26MP BSI CMOS sensor
- ระบบกันสั่นภายในบอดี้ (กันสั่นได้มากถึง 6.5EV correction)
- ถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 20 fps ผ่านระบบ AF (และถ่ายภาพได้เนื่องสูงสุดที่15 ผ่านชัตเตอร์แบบ mechanical shutter)
- ถ่ายวีดีโอ 4K video 60p
- ถ่ายวีดีโอขนาด 1080 video 240 fps, วีดีโอสโลโมชั่น 4-10x
- Fully articulated rear touchscreen
- ช่องมองภาพ ความละเอียด 3.68M-dot OLED electronic viewfinder (up to 100 fps refresh rate)
- แบตเตอรี่ใหม่ รุ่น NP-W235 ถ่ายภาพได้ต่อเนื่องมากถึง 500 ภาพต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
- ช่องเสียบการ์ด UHS-II สองช่อง
- พอร์ท USB-C type connector รองรับการชาร์จได้
- 12 Film Simulation modes, including Eterna Bleach Bypass
มีอะไรใหม่ที่น่าสนใจใน X-T4
กล้องใหม่ทั้งทีแน่นอนว่าฟีเจอรใหม่ๆ ต้องมีคลอดตามมาด้วยโดยเฉพาะเรื่องของระบบกันสั่นในบอดี้ ฟีเจอร์ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ของกล้องฟูจิที่จับมาใส่ในกล้องขนาดเล็ก โดยมีการปรับปรุงใให้มีขนาดเล็ก เบาและทำงานเงียบกว่ารุ่นที่ใส่ในกลอง X-H1 และกันสั่นได้มากถึง 6.5EV อ้างอิงจากมาตราฐานของ CIPA เรียกว่าในที่แสงน้อยในหลายสถานการณ์คงไม่ต้องง้อขาตั้งกล้องกันเลยทีเดียว แต่ทางฟูจิมีแจงมาบ้างว่าระบบกันสั่นจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพนั้นต้องใช้คู่กับเลนส์ X-series ที่ตอนนี้มีอยู่ประมาณ 29 เลนส์
ระบบออโต้โฟกัสเป็นอีกสิ่งที่ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ระบบจะตัดใจว่าจะติดตามสีหรือรูปร่างรวมไปถึงข้อมูลระยะห่างของวัตถุ เรียกว่ามีการพัฒนาระบบการติดตามวัตถุให้ดีมากขึ้น ซึ่งฟังก์ชั่นออโต้โฟกัสนั้นได้รับมรดกมาจากกล้องรุ่นพี่ X-Pro3 ที่มีระบบ face/eye detection ได้พร้อมกัน
ส่วนเรื่องชัตเตอร์ใหม่เป็นอีกสิ่งที่พัฒนาขึ้นและมีข่าวลือหลุดออกมาก่อนงานเปิดตัว แน่นอนว่าเรียกเสียงชื่นชมจากแฟนคลับกันชุดใหญ่ ทำให้สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยชัตเตอร์แบบ mechanical ได้สูงสุด 15 ภาพต่อวินาที อายุการใช้งานก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับ X-T2 จนมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 300,000 cycles
Film Simulation มีการใส่เพิ่มมาอีกหนึ่งสี Eterna Bleach Bypass เป็นสีที่มีความเข้มจัดกว่า Eterna ชื่อคล้ายกันแต่ความเข้มต่างกันพอสมควรแต่โดยรวมทั้งคู่ก็สวยโดนใจ
นอกจากระบบออโต้ที่ได้รับมรดกจาก X-Pro3 แล้วยังมีเรื่องของ tone control และ image option ที่ได้รับมาด้วย
งานวีดีโอจัดมาเต็มมากขึ้น
เป็นกล้องที่มีฟีเจอร์วีดีโอจัดมาให้หนักหน่วงเอาใจคนถ่ายวีดีโอเต็มที่ นำทีมโดยวีดีโอ 4K 60p โหมดแล้วซึ่งจากการรีวิวของสำนักต่างประเทศกล่าวว่า X-T4 ถ่ายวีดีโอ 4K ได้นาน 20-30 นาที โดยเงื่อนไขอยู่ที่ 50pหรือ 60p ส่วนระบบกันสั่น 5 แกนที่ออกมาแบบและพัฒนาให้ดีขึ้นแล้ว ทางฟูจิยังมีใส่กันสั่นดิจิตอลเข้ามาไว้ด้วยเพื่อตอบโจทย์คนที่ต้องการความนิ่งมากขึ้น เมื่อถ่ายวีดีโฮ 4K และ crop ด้วยนะบบกันสั่นดิจิตอลจะเสียพื้นที่ภาพไป 1.29x และวีดีโอสโลโมชั่นจะถ่ายที่ความละเอียด Full HD 240 fps เท่านั้น
เมนูการตั้งค่าง่ายและรวดเร็วขึ้น
อย่างที่กล่าวไปในข้างต้นว่า X-T4 เป็นกล้องที่จัดหนักฟีเจอร์วีดีโอมาให้เต็มที่ ในการสั่งงานเองฟูจิฟิล์มออกแบบเมนูและการเปลี่ยนโหมดให้มากขึ้น แยกเมนูออกมาไว้ให้และสั่งงานได้ง่ายมากขึ้น
F-Log View Assist
สำหรับใครที่ชอบถ่ายไฟล์ LOG แล้วฟีเจอร์น่าจะเป็นที่ชื่นชอบมากเพราะจะเป็ฯตัวช่วยในการพรีวิววีดีโอที่ถ่ายด้วย F-Log ตัวฟีเจอร์จะเข้าปรับสีในจอ LCD และ EVF แต่ฟีเจอร์นี้ไม่เข้าไปยุ่งกับไฟล์แต่อย่างใดแต่ใช้พรีวิวหลังกล้องเพื่อดู footage ซึ่งภาพรวมๆจะคล้ายๆกับ ใช้ฟลิ์ม Eterna อยู่
ยังไม่มีช่องเสียบหูฟัง และ ช่องเสียบการ์ดสองใบ
แอบเป็นเรื่องปวดใจเล็กๆที่ทางฟูจิฟิล์มยังไม่ยอมใส่ช่องเสียบหูฟังเพื่อให้คนถ่ายได้เช็คเสียงวีดีโอในระหว่างถ่ายทำ ผู้ใช้งานต้องหาอะแดปเตอร์ USB-C มาปรับเพื่อให้สามารถใช้งานได้
เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่จะมีช่องเสียบการ์ดสองใบเพื่อช่วยให้การทำงานคล่องตัวไม่ต้องเปลี่ยนการ์ดหลายครั้งและกรณีการ์ดเสียยังมีการ์ดอีกใบไว้สำรองข้อมูลได้อีกชั้น เรียกว่าเป็นเรื่องของความปลอดภัย
แบตเตอรี่ใหม่
X-T4 เป็นกล้องรุ่นใหม่ตัวแรกที่ไม่ใช้แบตเตอรี่ W126 ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ที่ใช้มาหลายรุ่น และหันมาใช้ NP-W235 (หน้าตาแอบคล้ายกับแบตเตอรี่ค่ายเหลือง)ตัวแบตเตอรี่จะมี 16Wh ทำให้กล้องรุ่นใหม่สามารถถ่ายภาพได้มากถึง 500 รูป ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง(ตามบันทึกของ CIPA ) ด้วยการอัพเกรดแบตเตอรี่ทำให้ช่างภาพไม่จำเป็นต้องพะวงกับแบตเตอรี่เหมือนเมื่อก่อน