ข่าวลือยังคงตามมาเปิดเผยเรื่อยๆ สำหรับกล้อง Nikon ที่มีข่าวจะเปิดตัว Z7 II และ Z6 II ในเร็วๆ วันนี้ ความน่าสนใจว่าของเขาจะดีจริงไหมยังคงต้องรอไป แต่ก่อนวันเปิดตัวทางเว็บไซต์ D Preview มีโอกาสได้มานั่งคุยกับ 3 แกนนำใหญ่ของ Nikon ทั้ง Keiji Oishi ตำแหน่งผู้จัดการ Imaging Business, Satoshi Yamazaki ผู้จัดการ Optical Engineering Division และ Takeshi Suzuki ผู้จัดการ Optical Engineering Division มานั่งพูดคุยเรื่องภายในตลอดเกือบปีที่ผ่านมา รวมไปถึงกล้องที่จะเข้ามาแทน Z6 Z7 รวมไปถึง Z8
มีผู้อ่านหลายคนหวังว่าจะได้เห็น Z8 หรือ Z9 เปิดตัว ที่มีระดับสูงกว่า Z6 และ Z7 มีอะไรฝากถึงพวกเขาไหม
Keiji Oishi : “เรายังพยายามขยายระบบ Z mount ออกไปอีก ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการเติบโต ขณะเดียวกันเราทำงานอย่างหนักเพื่อตัดสินอนาคตของกล้องและเลนส์ที่อาจจะเกินความคาดหวังของผู้ใช้งาน ซึ่งตอนนี้ผมยังไม่สามารถตอบอะไรได้มาก”
กล้อง Z6 และ Z7 วางขายมากว่า 2 ปี ลูกค้ามีบอกเล่าความต้องการหรือการเตรียมตัวที่จะมีรุ่นใหม่เข้ามาแทนที่
Keiji Oishi : สิ่งแรกที่เราต้องทำคือการขยับขยายระบบ Z ให้ออกมาดีเยี่ยมสมกับที่เราให้คำมั่นสัญญาไว้แฟนคลับนิคคอนที่ระบบ Z ทำออกมาได้ดีเยี่ยมเนื่องจากเส้นผ่านศูนย์กลางของเมาท์มีขนาดที่กว้างทำให้สามารถรวบรวมแสงเข้าเซนเซอร์ได้
ส่วนเสียงตอบรับจากตลาดที่เราได้มาค่อนข้างมีความหลากหลาย ซึ่งส่วนใหญ่ออกไปทางในแง่บวกผ่านการอัปเดตเฟิร์มแวร์อย่างต่อเนื่อง และวันที่ 14 ตุลาคมนี้ที่จะมีการเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ที่ผ่านการปรับปรุงหลายจุดทั้งฮาร์ดแวร์ ซึ่งปัญหาเรื่องนี้ไม่สามารถแก้ด้วยเฟิร์มแวร์ ซึ่งในระบบ Z เมาท์เป็นระบบที่สร้างมาเพื่อพัฒนาทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์และเฟิร์มแวร์
สำหรับบอดี้รุ่นปัจจุบันที่ออกมาของ Nikon เป็นการออกแบบที่ได้รับการยอมรับจากมืออาชีพ สำหรับบทบาทต่อไปเป็นสิ่งที่เราตื่นเต้นเพราะเรามีเลนส์ที่วางขายอยู่หลากหลาย และเราจะฟังกระแสตอบรับของตลาดและลูกค้าอย่างใกล้ชิด
ช่วยเล่าเรื่องของเลนส์ 70-200mm F2.8 ที่ล่าช้าหลายครั้ง
Keiji Oishi : เราต้องขอโทษอย่างสุดซึ้งไปยังลูกค้าของเราทุกคนสำหรับความล่าช้าที่เกิดจากเรื่องของโรคระบาดโควิด-19 ที่ทำให้เราอยู่ท่ามกลางเมฆหมอกของการระบาด มันเป็นความท้าทายของเราที่ต้องพยายามปรับแต่ง 70-200mm F2.8 ให้มีคุณภาพที่ดีเยี่ยมเช่นเดิม
คุณยืนยันได้ไหมว่าเราจะได้เห็นเลนส์ DX หรือไม่
Keiji Oishi : เรสยังประเมินความต้องการของตลาดและการตอบรับอยู่เสมอ และเรารับรู้ถึงความต้องการเลนส์ระดับ DX กลยุทธ์การจัดกลุ่มเลนส์ของเรามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและเรามีการวางแผนเลนส์รูปแบบ DX เพิ่มเติมซึ่งอาจจะมีมากขึ้นในอนาคตเช่นกัน
Z 50mm F1.2 ใหม่มีข้อดีอะไรบ้างในแง่ของเลนส์?
Takeshi Suzuki : เลนส์ชนิดนี้เป็นสิ่งที่ Z-mount สร้างขึ้นมาเพื่อให้เร็วและคมเป็นพิเศษ เราภูมิใจกับเลนส์นี้มากเนื่องจากเป็นความสมดุลที่สมบูรณ์แบบของโบเก้ที่สวยงามนุ่มนวลและความคมชัดที่น่าทึ่ง
ประกอบด้วยสูตรเลนส์สมมาตรที่ช่วยลดการโค้งงอของแสงที่เกิดขึ้นเมื่อผ่านไป สิ่งนี้ทำให้เกิดภาพที่บริสุทธิ์และสะอาดที่สุด ผลกระทบที่ใหญ่ที่สุดของเมาท์ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่ที่สุดบนเลนส์นี้คือเราสามารถวางตำแหน่งหน่วยโฟกัสไปทางด้านหลังได้ซึ่งรับประกันประสิทธิภาพของ AF
เป็นเลนส์ตัวแรกในประเภทนี้ที่มีมอเตอร์ STM คู่ขับเคลื่อน AF การใช้มอเตอร์ STM สองตัวทำให้ความเร็ว AF ที่เหนือกว่า
อะไรคือประโยชน์ของโครงสร้างออปติคอลใหม่ที่มีองค์ประกอบด้านหลังที่ใหญ่ขึ้น?
Takeshi Suzuki : ไม่จำเป็นต้องบังคับให้แสงโค้งงอเพื่อเข้าสู่เซ็นเซอร์ ในทางกลับกัน บริษัท อื่น ๆ ที่มีเมาท์ขนาดเล็กจำเป็นต้องบังคับให้แสงโค้งงอซึ่งอาจทำให้คุณภาพของภาพลดลง นอกจากนี้ด้วยระยะหน้าแปลนที่สั้นทำให้เราสามารถลดขนาดเลนส์ได้ในขณะเดียวกันก็มีส่วนเพิ่มประสิทธิภาพ
Z 14-24mm F2.8 ใหม่แก้ไขเรื่องความผิดเพี้ยนได้ดีขึ้นมากแค่ไหน
Satoshi Yamazaki : มีอัลกอริทึมที่เป็นกรรมสิทธิ์ซึ่งใช้สำหรับเลนส์เกือบทุกประเภท เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้นเราจึงสามารถใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมทั้งด้านแสงเทคโนโลยีและการคำนวณโดยผลลัพธ์สุดท้ายคือคุณภาพของภาพที่ดีที่สุด เมื่อเทียบกับเลนส์ NIKKOR F เราได้รับความละเอียดที่สูงขึ้น
เพื่อให้ได้คุณภาพของภาพที่ดียิ่งขึ้นเรามีเทคโนโลยีการเคลือบขั้นสูงที่ช่วยลดแสงหลอกเช่น ARNEO Coat และ Nano-Crystal Coat ความเปรียบต่างนั้นเหลือเชื่อทำให้ได้การสร้างสีที่ดีกว่าที่เป็นไปได้ด้วย MTF ระบบ Z-mount ช่วยให้มั่นใจได้ว่าภาพซ้อนทั้งด้านกลไกและด้านเลนส์จะลดลง
credit : D-Preview