เป็นก้าวสำคัญของ Nikon ที่ส่งสัญญาณถึงโลกกระจกว่าค่ายสีเหลืองพร้อมที่ลุยไปข้างหน้ากับ mirrorless เต็มตัว โดยมี Z7 mark II และ Z6 Mark II เป็นแกนนำต่อไปและหลังจากนี้เราจะได้ชมเลนส์ในระบบ Z-mount มากขึ้นและครบจักรวาลแน่นอน
รายละเอียดทางเทคนิคของ Z6II
-เซนเซอร์ ฟูลเฟรม
-ความละเอียด 24.5 ล้านพิกเซล
-ช่วง ISO 100-51200
-จุดโฟกัส 273 จุด (จำนวนจุดโฟกัสที่ใช้ได้ในโหมดภาพถ่ายพร้อม AF จุดเดียวที่เลือกสำหรับโหมดพื้นที่ AF และ FX ที่เลือกสำหรับพื้นที่ภาพ)
-ถ่ายภาพต่อเนื่อง 14 ภาพ ต่อวินาที
-ไฟล์วีดีโอ FHD(1080/120p) และ 4K/30p
-ระบบกันสั่น 5-axis image sensor shift
-ช่องเสียบการ์ด 2 ช่อง 1. CFexpress card or XQD card 2. SD card
-น้ำหนัก 705 กรัม
การเชื่อมต่อ wifi, blutooth
หน้าจอสัมผัสและหมุนได้
กลับมาหา SD Card อีกครั้ง
หลังจากทนเสียงบ่นและเสียงล้อจากเพื่อนๆ มาได้สักพักจนในที่สุด Nikon ที่รักให้ Z6 และ Z7 เวอร์ชั่นสอง มีช่องเสียบการ์ด SD Card แล้ว และยังมีช่อง XQD มาให้ด้วย เรียกว่ามีช่องเสียบการ์ดสองช่องมาให้ครบครัน ไม่ต้องเดือดร้อนทั้งคนที่ย้ายมา XQD และอีกกลุ่มที่ยังมี SD Card อยู่ เพราะว่ากันตามจริง SD Card ในตลาดมีราคาที่ไม่แรง ส่วน XQD นี่ยังคงหลักพันบาทแต่ในอนาคตเชื่อว่าราคาน่าจะลงมาให้คนทั่วไปได้ใช้
ลุยทางวีดีโอมากขึ้น
ภาพลักษณ์ของ Nikon ตลอดที่ผ่านมาเป็นเรื่องของภาพนิ่งมาโดยตลอดแม้กล้องรุ่นใหม่ของพวกเขาจะมีฟังก์ชั่นวีดีโอมาให้แล้ว และครั้งนี้ Nikon ดูจะลุยด้านวีดีโอหนักมากขึ้น จัดใส่ UHD 4K 60p มาให้ซึ่งจะมีการอัพเดตเฟิร์มแวร์ให้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ส่วนตอนนี้จากหน้าเว็บไซต์ทางการเป็น 4K 30p นอกจากนี้ตัวเลือกเอาต์พุตวิดีโอของกล้องยังเพิ่มขึ้นโดย Mark II สามารถส่งออกภาพวิดีโอ HLG HDR 10 บิตนอกเหนือจาก N-Log ไปยังเครื่องบันทึกภายนอก
บอดี้และการจับถือ
ตัวบอดี้โดยรวมยังคงเหมือนรุ่นก่อนและผลิตจาก แมกนีเซียมอัลลอยด์ เพื่อให้ความทนทานและน้ำหนักที่เหมาะสมในการจับถือ ส่วน grip เองดูจับเข้ามือและด้านหลังยังคงจัดวางให้กดสั่งงานได้ดีและอิสระทั้งปุ่ม Fn ได้ดีตามฉบับของ Nikon
แบตเตอรี่ชาร์จจาก power bank ได้
Z6 Mark II ใช้แบตเตอรี่รุ่น EN-EL15c เป็นรุ่นล่าสุด ซึ่งเป็นรุ่นที่มีความจุมากกว่า 15b อยู่ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ และยังรองรับการชาร์จผ่านพาวเวอร์แบงก์ได้เหมือนรุ่นอื่น ซึ่งเป็นประโยชน์ในการถ่ายภาพพวกล่าดาวและการถ่ายภาพแสงเย็นมากทีเดียว ถามว่าแบตเตอรี่ 1 ก้อนจะได้กี่ภาพจากกบันทึกจะสามารถถ่ายได้ประมาณ 410 ภาพต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง และหากใช้จอ LCD ด้านหลังช่วยถ่ายภาพจะได้ประมาณ 340 ภาพ ซึ่งดูจะพอเพียงกับการใช้งานของกลุ่มช่างภาพมากพอสมควร
ระบบโฟกัสพัฒนาขึ้น
ยังคงไล่ตามเพื่อนๆ ในตลาดต่อเนื่องชนิดไม่ให้หลุดจากกลุ่มไลน์ ในตัว Z6 mark II มีการต่อยอดจากรุ่นก่อนโดยโฟกัสใบหน้าและดวงตามีการพัฒนาให้ดีขึ้นมากกว่ารุ่นก่อนที่ยังข้อจำกัดในโหมด area AF ขณะเดียวกันยังเพิ่มรูปแบบของ AF บริเวณกว้างพร้อม AF ใบหน้า / ดวงตาของมนุษย์และสัตว์ลงในรายการโหมด AF ที่เข้าถึงได้จากเมนูด่วน ‘i’ ซึ่งหมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องมีส่วนร่วมกับฟังก์ชันเหล่านั้นแยกกัน
อีกเรื่องที่น่าสนใจระบบโฟกัสสามารถถ่ายในที่แสงน้อยได้ถึง –4.5EV (การปรับปรุงแบบครบวงจร) เมื่อใช้เลนส์ F2.0 (หรือเร็วกว่า) และโดยไม่ต้องใช้โหมด AF ที่แสงน้อยช้าลงซึ่งจะขยายความสามารถในการถ่ายภาพในที่แสงน้อยไปอีกสองสต็อป
น้ำหนัก 705 กรัม
ใครที่เคยชินกับกล้อง D850 ที่มีน้ำหนักประมาณ 1005 กรัม ต้องบอกว่าสบายใจได้เลยว่าZ6 mark II มีน้ำหนักที่เบากว่า 300 กรัม น้ำหนักที่เบาลงพอจะช่วยให้การจับถือสบายมากกว่าเมื่อก่อน