โบเก้ (Bokeh) คืออะไร
หลายคนที่เป็นมือใหม่คงจะสงสัย จะทำให้ภาพข้างหลังเบลอ แล้วมีวงกลม ๆ แบบนั้นได้อย่างไร เรามาทำความรู้จักกันก่อนว่า Bokeh คือ คำว่า เบลอ หรือว่า ไม่ชัด ในภาษาญี่ปุ่น ศัพท์ในการถ่ายภาพก็หมายถึงอะไรก็ตามที่อยู่นอกระยะโฟกัสจากวัตถุที่เราโฟกัส Bokeh สามารถมีหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับเลนส์ และ วัตถุในภาพ เราจะมาสอนวิธีการถ่ายภาพให้ได้ Bokeh สวย ๆ กัน เจ้าสิ่งนี้มีความสำคัญอย่างไรกับภาพถ่ายของเรา ยกตัวอย่างในกรณีที่คุณต้องการถ่ายภาพ Portrait แล้วสถานที่ตรงนั้นมีสิ่งรบกวนจนเป็นจุดสนใจทำให้แบบของเรานั้นดูไม่เด่นเอาเสียเลย เราก็สามารถแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้ด้วยการถ่ายภาพให้เกิด Bokeh ดึงฉากหลังให้เบลอ ซึ่งมันทำให้ภาพของเราดูมีมิติมากขึ้น มีระยะใกล้-ไกล นอกจากนั้นการที่เราถ่ายให้พื้นหลังเบลอ ถ้าฉากหลังมีดวงไฟ หรือแสงระยิบระยับ วัตถุที่เป็นรูปทรง ก็จะทำให้ภาพเราเกิด Bokeh ที่เป็นรูปทรงได้อีกด้วยนะ
ตัวอย่างภาพ Bokeh
ตัวอย่างภาพนี้ เราจะเห็นว่าเป็นภาพ Portrait ที่มีระยะชัดตื้นจากการใช้รูรับแสงกว้าง หรือ ค่า F ต่ำ โฟกัสไปที่ตัวแบบจนทำอะไรก็ตามที่อยู่นอกเหนือระยะชัดนั้นเบลอจนกด Bokeh สวย ๆ จะเห็นว่าดวงไฟที่อยู่ข้างหลังมากมายนั้นเบลอจนกลายเป็น Bokeh ดวงกลม ๆ สวยงาม
ภาพนั้นโฟกัสให้เห็นถึงมือของเด็กและผู้เป็นแม่ ทำให้จุดสนใจอื่น ๆ ไม่รบกวนสิ่งที่ผู้ถ่ายโฟกัสมากจนเกินไป แถมยังมีดวงไฟ Bokeh ข้างหลังสวย ๆ เป็นอีกหนึ่งเทคนิคหากคุณต้องการที่ถ่ายภาพให้มีดวงไฟโบเก้ ในห้องของคุณเอง ก็แค่ซื้อไฟประดับมาและจัดห้องให้สวยงาม ทำให้มันอยู่นอกระยะโฟกัส เท่านี้คุณก็ได้ภาพโบเก้ดวงไฟสวยงามในห้องของคุณแล้ว
บางคนสงสัยอยากได้ Bokeh วงกลม ๆ ในช่วงกลางวันแบบนี้จะ ถ่ายโบเก้ ได้อย่างไร การที่แสงส่องผ่านต้นไม้มาทำให้เกิดประกายแสง และพอเราโฟกัสที่ตัวแบบจนข้างหลังนั้นหลุดเบลอจึงเกิดเป็น Bokeh แสงธรรมชาติที่สวยงาม
ทำไมการถ่ายภาพโบเก้ ถึงเป็นที่นิยม
การถ่ายภาพให้เกิด โบเก้ สวย ๆ ก็เป็นพื้นฐานหนึ่งที่ช่างภาพมากมายต้องใช้ เพราะ การถ่ายภาพให้มี Bokeh นั้น จะดึงจุดสนใจไปยังวัตถุ หรือ ตัวแบบของเรา ไม่ทำให้มีจุดรบกวนต่าง ๆ มาทำให้สิ่งที่เราโฟกัสถูกแทนที่ด้วยสิ่งอื่น แถม Bokeh ที่เป็นดวงต่าง ๆ ยังช่วยเสริมความงามให้กับรูปภาพของเรา ไม่ว่าจะเป็นความนุ่มนวล โดดเด่น สวยงาม สะกดสายตา เป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่ช่วยให้ภาพของเรา หรือตัวแบบของเรานั้นดูดียิ่งขึ้น มักนิยมใช้กับภาพ Portrait เพื่อดึงเอาความสวยงาม หรือ อารมณ์ร่วมในช่วงเวลานั้น ๆ เพื่อสะกดสายตาคนดู
วิธีถ่ายภาพโบเก้ ในเบื้องต้น
ค่ารูรับแสง Aperture
ค่ารูรับแสงคือสิ่งสำคัญมาก ๆ ที่จะทำให้ภาพของคุณเกิดความชัดลึกชัดตื้น ซึ่งถ้าคุณต้องการภาพที่มีฉากหลังเบลอ คุณก็ต้องเลือกใช้รูรับแสงกว้าง เช่น f1.8 หรือต่ำกว่านั้น หรือสูงกว่านั้นแล้วแต่ระยะของตัวแบบและเลนส์ ถ้าตัวแบบอยู่ไกลก็ไม่ควรใช้ค่ารูรับแสงที่สูงกว่า f2.8
การตั้งค่ากล้อง Camera setting
วิธีถ่ายโบเก้ ให้สวยงาม ต้องมาคู่กับการตั้งค่ากล้องให้เป็น เรื่องรูรับแสงก็เป็นส่วนหนึ่งในการตั้งค่ากล้อง นอกจากนั้นการ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายโดย กล้อง DSLR หรือ กล้อง Mirrorless ถ่ายโบเก้ ก็ยังสัมพันธ์กับเรื่องสปีดชัตเตอร์ ควรใช้ความไวของสปีดชัตเตอร์เร็วกว่า 1/50 วินาที เป็นต้นไป เพราะถ้าหากคุณใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำมาก ๆ จะทำให้ไม่เกิดเป็น Bokeh วงกลม ๆ แต่จะเบลอไปเลย นอกจากนั้นถ้าคุณต้องถ่ายภาพในเวลากลางวันแล้วต้องเปิดค่า f ต่ำมากจะทำให้ภาพของคุณสว่างจนเกินไป ควรที่จะลดค่า ISO ลง หรือ เพิ่ม Speed Shutter ขึ้นสูง ๆ แทน ไม่ควรเพิ่มค่ารูรับแสง เพราะจะทำให้ชัดทั้งภาพ
ความยาวโฟกัส Focal Length
สังเกตได้ว่าเลนส์ทุกตัวนั้นจะมีทางยาวโฟกัสของมัน ใกล้สุดที่สามารถถ่ายได้ที่ระยะเท่าไหร่ หากคุณใช้เลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสที่สั้น หรือ เลนส์ Wide angle จะทำให้ภาพนั้นเบลอน้อยลง เน้นความกว้างของภาพ ทำให้การเกิด Bokeh ก็น้อยลงตาม กลับกันถ้าคุณใช้เลนส์ระยะ Telephoto ก็จะช่วยให้ภาพของคุณเกิดมิติมากยิ่งขึ้น มีความเบลอ และสร้าง Bokeh ได้ง่ายกว่า
ถ่ายใกล้ ๆ Subject
หากคุณต้องการ ถ่ายโบเก้ คุณจำเป็นที่จะต้องให้แบบของคุณนั้นอยู่ใกล้กับเลนส์มากที่สุดเพื่อสร้างมิติของภาพและพื้นหลังก็ควรจะอยู่ห่างจากตัวแบบระดับหนึ่ง เพื่อให้ภาพเกิดมิติและสร้างภาพที่เกิด Bokeh ได้นั่นเอง ไม่ควรถ่ายภาพที่ตัวแบบอยู่ใกล้กับฉากหลัง หรือ วัตถุอื่น ๆ มากจนเกินไป
แนะนำเลนส์สำหรับการถ่าย Bokeh สวย ๆ
Canon RF 50mm f/1.2L
Canon RF 50mm f/1.2L หนึ่งในเลนส์ตัวโปรของค่าย Canon กับระยะ 50mm มาพร้อมกับรูรับแสงที่สามารถปรับได้กว้างถึง f/1.2 โฟกัสได้อย่างว่องไว มีความชัดลึกชัดตื้นที่ดีมาก ๆ มีชิ้นเลนส์พิเศษ UD และ Aspherical อย่างละหนึ่งชิ้นเลนส์ กลีบรูรับแสง 10 กลีบ ระบบออโต้โฟกัสแบบ Ring-type USM กันฝุ่นและละอองน้ำ
Canon RF 85mm f/1.2L USM DS
Canon RF 85mm f/1.2L USM DS เลนส์ถ่าย Portrait ที่ต้องมีติดกระเป๋าไว้ กับเลนส์ตัวโปรที่ดีที่สุดอีกหนึ่งตัวของ Canon ไม่ว่าคุณจะถ่ายระยะใกล้-ไกล ก็สามารถสร้างมิติของภาพ และ Bokeh ได้อย่างสวยงาม ตัวเลนส์เคลือบด้วย Defocus Smoothing ทำให้ Bokeh ที่เกิดมีความละมุนสวยงามมากยิ่งขึ้น ชิ้นเลนส์ช่วยในการหักเหของแสงสีน้ำเงินได้อย่างดีเยี่ยม แถม เคลือบ Air Sphere เพื่อช่วยนำแสงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดแสงแฟร์ที่ไม่พึงประสงค์
Canon RF 85mm f/2 Macro IS STM
Canon RF 85mm f/2 Macro IS STM เลนส์มาโคร ระยะ 85mm f/2 ที่มาพร้อมกันสั่นในตัว ช่วยให้คุณถ่ายภาพระยะใกล้ได้อย่างไม่สั่นไหว และ ระยะโฟกัสที่ต่ำสุดที่ 35.05 cm มีระบบโฟกัสที่แม่นยำ รวดเร็ว และ เงียบ กำลังขยายสูงสุดที่ 1:2 มีม่านรูรับแสงทรงกลม 9ใบ ช่วยให้ได้ภาพที่มีโบเก้ที่สวยงาม
Canon EF 50mm f/1.8 STM
Canon EF 50mm f/1.8 STM เลนส์ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ราคาประหยัด กับช่วงเลนส์อเนกประสงค์ ถึงจะไม่ได้ดีเทียบเท่ากับเลนส์ตัวโปร แต่สำหรับผู้ที่มีงบน้อย และกำลังหัดถ่ายรูปโดยใช้ กล้อง DSLR ก็ถือว่าเป็นเลนส์เริ่มต้นที่ดีเลยทีเดียว ตัวเลนส์มี STM AF Support การถ่ายวิดีโอด้วย Servo AF มี 7 ใบเบลด
Canon EF 50mm f/1.4 USM
Canon EF 50mm f/1.4 USM เลนส์ระยะ 50mm ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างตัวเริ่มต้น และ ตัวโปร มีค่ารูรับแสงต่ำสุดที่ f/1.4 สำหรับใครที่ไม่ชอบตัว 50mm ตัวเริ่มต้นที่ f/1.8 หรืองบไม่พอที่จะไปตัว f/1.2 เลนส์ตัวนี้ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับ Prime เลนส์ที่น่าสนใจสำหรับ ภาพโบเก้ เลนส์ตัวนี้มีค่ารูรับแสงแคบที่สุดที่ f/22 ระยะโฟกัสต่ำสุด 0.45m มีน้ำหนักที่เบา โฟกัสได้ว่องไว
Sigma 85mm f/1.4 DG DN (A)
อีกหนึ่งทางเลือกเลนส์ Third Party อย่าง ค่าย Sigma ตัวนี้มีระยะ 85mm f/1.4 ช่วยร่วมกับ Sony E Mount และ Panasonic L Mount ประกอบด้วยชิ้นเลนส์พิเศษ SLD 5 ชิ้น ASP 1 ชิ้น HR 4 ชิ้น เคลือบผิวเลนส์ด้วย Super Multi-Layer และมี Weather-sealed กันฝุ่นและละอองน้ำ
สรุป
Bokeh หรือ โบเก้ ก็คือ จุดแสง ที่หลุดโฟกัสจนทำให้เบลอนั่นเอง ซึ่งวิธีถ่ายโบเก้ ทั้งหมดเราก็ได้แนะนำไปหมดแล้ว ที่เหลือก็อยู่ที่ตัวเพื่อน ๆ นำไปปรับไปลองใช้กับการถ่ายภาพของตัวเอง เพราะการถ่ายภาพโบเก้นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญที่จะช่วยให้ภาพของคุณมีมิติและโดดเด่นมากยิ่งขึ้น