เชื่อว่าหลายคนอาจจะมีสับสนกันบ้างสำหรับคุณสมบัติเรื่องกันน้ำและป้องกันภูมิอากาศ ที่ผู้ผลิตต่างขยันเอาออกมานำเสนอกันบ่อยจนบางครั้งสร้างความสับสนให้ผู้บริโภคบ่อยครั้งว่า ตกลงแล้วคุณสมบัติทั้งสองต่างกันอย่างไร เพราะบางครั้งเหล่าผู้ผลิตก็เอาคุณสมบัติของสองอันมาผสมปนเปทำเอาคนซื้อนึกว่าของที่ตนได้นั้นป้องกันได้เกือบทุกอย่าง พอเกิดเหตุการณ์ขึ้นมาจริงๆ ก็คิดว่าโดนผู้ผลิตต้มเอาเสียแล้วทั้งๆ ที่ป้ายฉลากบนกล้องบอกคุณสมบัติอยู่ วันนี้ EC-Mall จะพาผู้อ่านไปทำความรู้จักกับ Water Proof และ weatherproof เบื้องต้นง่ายๆ กันทั้งสองอย่างมีคุณสมบัติอะไรบ้างเพื่อที่เราจะระมัดระวังกล้องถ่ายภาพสุดรักได้ถูกต้องไร้กังวล
Water Proof
กล้องคอมแพคถือว่าเป็นกล้องอีกรุ่นที่ออกแบบมาให้กันน้ำได้สมบูรณ์ โดยเลนส์ของกล้องจะไม่ได้ยื่นออกมามากนักหรืออาจจะมีบ้างนิดหน่อย แต่ไม่เยอะเกินไปและแบตเตอรี่ก็มีการล็อคป้องกันอย่างแน่นหนา โดยส่วนใหญ่กล้องกันน้ำเหล่านี้จะสามารถดำน้ำได้ประมาณ 12-20 เมตร โดยจะมีค่าวัดคุณสมบัติกันน้ำซึ่งเป็นค่ามาตรฐานที่แบรนด์ใหญ่ๆต่างใช้กันอย่าง IP (ingress protection) เช่น IP 67 หรือ IP68 ซึ่งจะสามารถบอกผู้ซื้อได้ทันทีว่าผลิตภัณฑ์ชิ้นนั้นป้องกันฝุ่นและน้ำเข้าได้มากแค่ไหน
วิธีการดูว่าเรตติ้งการป้องกันน้ำนั้นดีมากแค่ไหนให้ดูที่ตัวเลขข้างๆ 6 โดยบ้างครั้งผู้ผลิตจะใส่มาเป็นแบบ IPX6 หรือ IP6X (X แทนตัวเลขระดับการป้องกัน) แต่ก็อย่าพึ่งสบายใจว่ามีสัญลักษณ์ป้องกันน้ำจะพากล้องลุยได้ทุกย่านน้ำเพราะยังมีเหตุปัจจัยเกี่ยวกับเรื่องของเวลาที่อยู่ในน้ำและความลึกที่จมลงไป ซึ่งเลข IP ยิ่งสูงจะช่วยป้องกันกล้องเราได้นานขึ้นไม่มากก็น้อย ซึ่งจะคล้ายๆกับการป้องกันฝุ่นหรือ Dust-Proofing ที่จะใช้สัญลักษณ์ IP5X แต่ในปัจจุบัน IP6X ก็สามารถป้องกันฝุ่นได้เหมือนกัน
Weather Proof
สำหรับ DSLR ต่างกับกล้อง Compact ที่เลข IP ไม่ค่อยมีผลเท่าไร ซึ่งการจะพากล้อง DSLR ลงไปว่ายน้ำนั้นควรใส่อุปกรณ์เสริมอย่าง Housing ไปด้วยแต่ทางโรงงานก็ได้ออกมาตรฐานป้องกันที่เรียกว่า weatherproof หรือ weather-resistant ที่จะมีการป้องกันละอองน้ำ ฝุ่น ฝนตกบางๆ ไปจนถึงสภาพอากาศหนาวติดลบที่ประมาณ -10 องศา ซึ่งจะขึ้นอยู่กับกล้องแต่ละค่ายจะผลิตออกมา รวมถึงยังทำงานในสภาพอากาศหนาวชนิดหิมะตกโดยที่แบตเตอรี่สามารถทำงานต่อได้ ซึ่งจะไม่รับรองการป้องกันน้ำได้แบบ Water-Proof
ด้านกล้อง Mirrorless เองก็เหมือนกัน ยกเว้น Nikon AW1 ที่สามารถใช้งานใต้น้ำได้ลึกถึง 15 เมตร เป็นเวลา 60 นาทีและสามารถใช้งานในอุณหภูมิติดลบที่ -10 องศา แต่อย่างไรก็ตามควรศึกษาข้อมูลจากเว็บไซต์ทางการของบริษัทผู้ผลิตกล้องแต่ละค่ายให้ถี่ถ้วนก่อนการตัดสินใจซื้อ เพราะหากพลาดขึ้นมาบริษัทกล้องอาจจะไม่รับเคลมประกันก็เป็นได้