แม้จะผ่านเวลามาเกือบจะ 4 ปีแล้ว นับตั้งแต่ Sony เปิดตัวกล้อง a7SII กล้องมิลเลอร์เลสฟูลเฟรมที่ทางค่ายจัดให้เป็น “กล้องที่มีประสิทธิภาพความไวแสงสูงเป็นพิเศษ” และยังไม่มีการผลิตกล้องรุ่นใหม่มาทดแทนอีกด้วย ซึ่งเหตุนี้กล้อง a7SII จึงถูกใช้งานในประเภทกล้องบันทึกวีดีโอและภาพเคลื่อนไหวโดยส่วนใหญ่ เพราะยังเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่มั่นใจได้
EC-Mall จึงขอนำเสนอ 3 เหตุผลที่กล้อง a7SII เป็นกล้องสำหรับบันทึกวีดีโอที่รองรับกับการทำงานในระดับมืออาชีพในปี 2019 นี้
1.ความไวแสงที่สูงเป็นพิเศษ
สำหรับ a7SII ตัว S นั้นย่อมาจาก Sensitivity (ความไวแสง) จุดเด่นจึงเป็นกำลังISO ที่สูงสุด 409,600 ซึ่งยังไม่มีกล้องมิลเลอร์เลสรุ่นไหนทำได้ในตอนนี้ เพราะยิ่งมีค่าISOที่สูงมาก การเกิดสัญญาณรบกวนภาพ(Noise)ยิ่งมีน้อยลงเมื่อใช้ค่าISOในระดับต่ำ และทำให้เป็นผลดีกับการบันทึกวีดีโอในที่แสงน้อยอีกด้วย อย่างเช่น ใช้ในการบันทึกวีดีโอท้องฟ้าในตอนกลางคืน เป็นต้น
2.ความสามารถในการถ่ายวิดีโอระดับ 4K/30 เฟรมต่อวินาที
ในปัจจุบันกล้องมิลเลอร์เลสฟูลเฟรมสามารถบันทึกบันทึกวิดีโอ 4K ได้โดยส่วนมาก แต่ยังมีบางส่วนที่มีปัญหาครอบตัดภาพหรือ Pixel Binning แต่สำหรับ a7SII สามารถบันทึกวีดีโอ 4K ในรูปแบบฟูลเฟรมได้ ซึ่งมีคุณสมบัติระบบอ่านแบบเต็มพิกเซล โดยไม่ต้องใช้ Pixel Binning และมีฟังก์ชันภาพยนตร์ขั้นสูงอีกมากมาย จาก PlayMemories Camera Apps โดยในซีรีย์ปัจจุบันของ Sony ถอดส่วนนี้ออกจากกล้องหมดแล้ว
3.ราคาที่ถูกลงกว่าตอนเปิดตัว
ราคาปัจจุบันของ a7SII เฉพาะบอดี้ 89,990 บาท ในขณะที่ราคาเดิมเมื่อครั้งเปิดตัว 114,990 บาท ซึ่งมีความต่างกันถึง 25,000 บาท และยังไม่รวมกับร้านอื่นๆอีก
เกร็ดเล็กน้อยของ a7SII ที่น่ารู้
“The Possession of Hannah Grace” เป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ทาง Sony Pictures ใช้กล้อง a7SII ในการถ่ายทำตลอดทั้งเรื่อง ด้วยเหตุว่ากล้องมีราคาถูกมากเมื่อเทียบกับมาตรฐานกล้องระดับฮอลลีวูด แต่ก็สามารถทำสิ่งที่กล้องราคาแพงอย่าง RED, Arri และ Panavision ยังทำไม่ได้ โดยผู้กำกับภาพ Lennert Hillege ได้ข้ามข้อจำกัดของกล้องและสร้างภาพออกมาสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้หนังเรื่องนี้ใช้ต้นทุนในการสร้างเพียง 10 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น