DJI OM4 กิมบอลสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของฝั่ง DJI ที่มีการพัฒนาลูกเล่นใหม่ๆ เข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการกิมบอลทั้ง Magnetic Design ที่นำแม่เหล็กมาช่วยให้การใช้งานกิมบอลมีความง่ายมากขึ้น รวมถึงการออกแบบซอฟแวร์ให้ใช้งานได้ง่ายมากขึ้น แต่โจทย์ใหญ่ใจความหลักของใครหลายคนคือลูกเล่นใหม่ที่ใส่มานั้นด๊จริงมากน้อยแค่ไหน บทความชิ้นนี้จะพาทุกท่านไปฟังมุมมองของบล็อกเกอร์ชื่อดังอย่าง Digitalcameraworld มาให้อ่านกัน
DJI OM4 เป็นกิมบอลที่ดีสุดสำหรับสมาร์ทโฟน? Digitalcameraworld มีโอกาสได้ลองใช้อยู่สองอาทิตย์ DJI ควรจะเป็นเจ้าพ่อวงการกิมบอลและโดรนในเวลานี้ และด้วยคุณภาพที่สูงบนราคาที่ไม่ดุเดือดมาก โดยเฉพาะกิมบอลสมาร์ทโฟนที่มีการนำแนวคิดใหม่ๆ มาใช้อย่างใน Osmo Mobile 3 ที่มีการออกแบบให้น่าพกพามากขึ้นและยังออกแบบการพับเก็บออกมาได้ดีเยี่ยม และในรุ่น DJI OM4 ก็มีการออกแบบใหม่มาตีตลาดนั้นคือแม่เหล็กหรือ Magnetic Design เข้ามาช่วย
รุ่นสี่นี้มองดูผ่านๆ มีคล้ายกับรุ่นสามอยู่ไม่น้อยแต่ในเรื่องราบละเอียดแล้วกลับมีความต่างอยู่หลายจุด สิ่งแรกที่เห็นต่อมาคือเปลี่ยนชื่อเป็น DJI OM4 (อย่าไปสับสนกับ Olympus OM4 ) ต่อมาคือเรื่องการเลือกใช้สีทูโทนสีขาวนวลและสีเทาอ่อนเมื่อเทียบกับ Osmo Mobile สีเทาเข้มของปีที่แล้ว นอกจากนี้ยังมีมอเตอร์แบบใหม่ที่ทำให้สมาร์ทโฟนที่ติดตั้งมีความมั่นคงตลอดจนซอฟต์แวร์จำนวนหนึ่งที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการออกแบบ gimbal ที่ผ่านการทดลองและทดสอบแล้วนี้
ไฮไลต์สำคัญของ OM4 นั้นคือ ฟีเจอร์ Magnetic ที่นอกจากไม่ได้ติดอยู่กับกิมบอลแล้วยังมีขนาดน้ำหนักที่เบาด้วย เมื่อนำไปติดกับกิมบอลก็ยังแข็งแรงให้ความรู้สึกปลอดภัย ซึ่งหลายคนอาจจะกังวลมีความแน่นหนามากแค่ไหน
Magnetic quick-mount
ด้วยฟีเจอร์ใหม่นี้ทำให้ DJI OM4 ขึ้นแท่นกิมบอลที่ติดตั้งกับสมาร์ทโฟนง่ายที่สุดในตลาดไปในทันที โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องการใส่ที่ไม่ลงตัวหรือบาลานซ์ที่ต้องมาวุ่นวายในการใช้งานในแต่ละครั้ง
ภายในกล่องจะมีเมาท์มาให้ 2 แบบ ทั้งสองแบบจะใช้วัตถุดิบโลหะ ขนาดเบา โดยจะมีแบบขาหนีบและแบบ ring หรือแหวนไว้ติดหลังสมาร์ทโฟนโดยเราไม่ต้องกังวลว่าจะรู้สึกแปลกเมื่อไม่ได้เชื่อมต่อกับกิมบอล
หลังจากใช้ gimbal ในบ้านกลางแจ้งและจำลองสภาพแวดล้อมที่เป็นหลุมเป็นบ่อและเป็นอันตรายการเชื่อมต่อแบบล็อคแม่เหล็กระหว่าง gimbal และกริปไม่ได้ทำให้เกิดการหลุดหรือเสียสมดุล แรงดึงดูดนั้นแข็งแกร่งพอที่จะเก็บโทรศัพท์ที่มีน้ำหนักมากอย่าง Samsung Galaxy Note 20 Ultra ไว้ได้ในขณะเดียวกันก็ง่ายพอที่จะถอดออกได้อย่างสะดวกสบาย
ราคาคุ้มไหม
ราคาในตลาดไทยตอนนี้อยู่ที่ 4490 บาท ส่วน DJI Osmo mobile 3 มีราคา 4090 บาท ส่วนต่างประมาณ 400 บาทแต่ด้วยฟีเจอร์หลายอย่างที่พัฒนามาให้ใช้งานมากยิ่งขึ้นทั้งเรื่องแม่เหล็กที่สามารถติดไว้กับสมาร์ทโฟนและติดตั้งกับสมาร์ทโฟนได้ทันที ถือว่าคุ้มค่ากับ 400 บาทที่เพิ่มมา
ซอฟแวร์ ปุ่มสั่งงานและช่องเชื่อมต่อ
DJI OM4 ใช้งานผ่านการควบคุมด้วยแอพลิเคชั่น DJI MIMO ซึ่งส่งผลให้ฟีเจอร์ที่รุ่น 4 ทำได้ รุ่น3 ก็ทำได้ด้วย ส่วนในเรื่องของปุ่มสั่งงานบนกิมบอลทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่า มีความเหมือนกัน ส่วนพอร์ตจะมี USB-C อยู่ทางด้านขวาสำหรับชาร์จไฟและพอร์ต USB-A เพื่อให้คุณใช้ OM4 เป็นแบตสำรองได้ ฟังก์ชั่น Osmo Mobile 3 และ 4 pack และปุ่มบันทึกตลอดจนจอยสติ๊กและมีแถบเลื่อนซูมที่ด้านซ้ายของกริป
ส่วนในแอพลิเคชั่นคุณสามารถที่จะควบคุมสมาร์ทโฟนได้ที่ตัวเครื่องได้และยังรองรับกับเลนส์มุมกว้างของสมาร์ทโฟนรุ่น Note 20 Ultra โดย MIMO เวอร์ชั่นล่าสุดตอนที่รีวิวนั้นยังมีฟีเจอร์ทั้ง gesture control, story creation, และ object tracking และของเล่นใหม่ที่น่าสนใจมากๆ คือ Dynamic Zoom
การซูมดอลลี่ของ Hitchcock แบบคลาสสิกที่ใช้ในฉากบันไดใน Vertigo หรือการคาดการณ์ขากรรไกรระยะใกล้ของ Roy Scheider ได้รับการปรับโฉมแบบดิจิทัลด้วย OM4 ในขณะที่การซูมดอลลี่แบบดั้งเดิมสามารถทำได้ด้วยการแพนเข้าและซูมออกพร้อมกันหรือในทางกลับกันการเปลี่ยนฉากหลังแอพ DJI MIMO ก็ทำได้ด้วยการซูมแบบดิจิตอลและการเคลื่อนไหวทางกายภาพ นี่ไม่ใช่เหตุผลที่จะเลือก Osmo Mobile 3 หรือ 4 อย่างแน่นอนเนื่องจากผลลัพธ์มักจะพลาดมากกว่าการเข้าชม แต่เมื่อใช้งานได้ผลก็น่าประทับใจเมื่อใช้มือถือและลักษณะการจับมือถือ เคล็ดลับปาร์ตี้สุดเนี้ยบที่คุณน่าจะใช้ไม่กี่ครั้ง
โชคดีที่โหมดติดตามและคุณสมบัติหลักอื่น ๆ ที่ทำให้ Osmo Mobile 3 โดดเด่นกลับมาเช่นเดียวกับ Spin Shot, Timelapse, Motionlapse, Hyperlapse, Sports Mode และ 4x / 8x Slow Motion
คุณสมบัติพาโนรามาอัจฉริยะยังมีประโยชน์อย่างเหลือเชื่อ ข้อดีสำหรับตัวแทนอสังหาริมทรัพย์และสถาปนิกช่วยให้สามารถถ่ายภาพได้กว้างกว่าที่กล้องสมาร์ทโฟน ultrawide ที่กว้างที่สุดสามารถถ่ายได้ นอกจากนี้ฟีเจอร์ใหม่ Clone Me พาโนรามาที่สนุกสนานจะถ่ายภาพได้กว้างและแจ้งให้คุณย้ายข้ามเฟรมได้เหมือนเดิมคุณจึงสามารถสร้างฉากด้วยตัวคุณเองได้หลายเวอร์ชัน
ประสิทธิภาพการทำงาน
ในช่วงการกักตัวของทีมงาน Digitalcameraworld ทางทีมทดสอบประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ด้วยใช้สมาร์ทโฟน Galaxy Note 20 Ultra คู่กับ DJI Osmo mobile 3 และ OM4 ผลที่ได้คือ DJI Osmo mobile 3 จะมีอาการร้อนที่อุณหภูมิ 55 องศาเมื่อใช้งานไป 30 นาที สวนทางกับ OM4 ที่ยังคงเย็น
อีกสิ่งที่มีเพิ่มขึ้นมาของ OM4 พัฒนาเพิ่มมุมการทำงานมากขึ้นประมาณ 10 เปอร์เซนต์ทั้งในแกน x และ แกน Y แต่ในส่วนของการป้องกันการสั่นไหวของทั้งสองรุ่นต่างทำงานได้ดีเยี่ยมและขนาดยังคงน่าพกพาเช่นเดิม
แบตเตอรี่
DJI OM4 ทำงานได้นาน 15 ชั่วโมงต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้งเท่ากับ DJI Osmo mobile 3 ที่ใช้แบตเตอรี่ขนาดความจุ 2450mAh
คำตัดสิน
DJI OM4 เป็นรุ่นที่ได้รับการปรับปรุงจากรุ่นก่อนหลายจุดทำให้ดูเป็นทางเลือกที่จะซื้อกิมบอลใหม่สักตัวด้วยคุณสมบัติที่ชัดเจนทั้งการเมาท์แม่เหล็กที่ใช้งานและแบตเตอรี่ที่ดีกว่ารุ่นก่อนและมีระยะเวลาใช้งานที่นานขึ้นและแอพลิเคชั่นเองก็มีการปรับปรุงให้ดีมากขึ้น
ราคาเป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจ OM4 มีราคามากกว่ารุ่นสามอยู่ประมาณ 400 บาทแต่ด้วยฟีเจอร์ที่เพิ่มมาทำให้ส่วนต่างที่เกิดขึ้น ถือว่ายังพอคุ้มค่าในจ่าย