6 เหตุผลที่ทำให้ GoPro Hero 9 Black เหมาะใช้ทำ Vlog

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับกล้องแอ็คชั่นตัวใหม่จากโกโปร GoPro Hero 9 black ที่ผ่านการพัฒนาหลายด้านเพื่อให้ตัวกล้องตอบโจทย์ทั้งสายท่องเที่ยว สายคอนเท้น และสายกีฬากลางแจ้ง ขณะเดียวกันความต้องการด้านคุณภาพ เทคโนโลยีมากขึ้นอย่าง 5K ที่กำลังจะเป็นต้องการมากขึ้น ทำให้กล้อง GoPro Hero 9 black เป็นกล้องที่เหมาะจะทำ vlog หรือวีดีโอลงโซเชียลมีเดีย

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ

• เซนเซอร์ความละเอียด 23.6 ล้านพิกเซล
• จอด้านหน้าขนาด 1.4 นิ้ว
• แบตเตอรี่อึดกว่าเดิม 30% 
• Hypersmooth 3.0 และ timewarp 3.0
• webcam mode

1.วีดีโอ 5K คุณภาพสะใจโดนใจวัยรุ่น

เมื่อก่อนเราชื่นชอบ 4K แต่เวลาผ่านไป 5K กำลังเริ่มเป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น โดยทั่วไปหลายคนที่ถ่ายไฟล์ระดับนี้จะชอบนำไฟล์ 5K หรือ 4K มาคลอป(crop) เพื่อใช้กับวีดีโอ FHD กันมากพอสมควรเพื่อนำบางส่วนหรือภาพบางจุดที่ต้องการมาขยายเพิ่ม หรือใครที่อยากถ่ายวีดีโอ Vlog ความละเอียดสูงก็ทำได้ ช่วยยกระดับให้วีดีโอท่องเที่ยวหรือกิจกรรมของเราดูดีมีคุณภาพ คมชัด 

2.ความละเอียดที่มากขึ้นทั้งวีดีโอและภาพนิ่ง

20 ล้านพิคเซล คือความละเอียดกล้อง GoPro Hero 9 Black  ที่พัฒนาให้มากขึ้นจากรุ่น 8 ที่มีความละเอียดเพียง 12 ล้านพิกเซล คามละเอียดที่เพิ่มเข้ามาส่งผลให้ความละเอียดภาพนิ่งเพิ่มเป็น 20 ล้านพิกเซล พ่วงกับ super photo  ด้วย ทำให้ภาพที่ได้มามีความละเอียดและช่วยให้การแต่งภาพต่อในโปรแกรมอื่นง่ายมากขึ้น 

3.มีจอหน้ามาช่วยให้เซลฟี่ง่ายขึ้น

เป็นจุดบ่นกับ GoPro Hero 8 Black ที่หลายคนอยากได้จอด้านหน้ามาช่วยให้การเซลฟี่สะดวกสบายมากกว่าการต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ซึ่งในที่สุด GoPro Hero 9 Black ใส่จอด้านหน้าขนาด 1.4 นิ้วมาให้และยังสามารถสั่งเปิดและปิดหน้าจอนี้ได้  ส่วนจอด้านหลังมีการปรับขนาดจาก 2 นิ้ว มาเป็น 2.2 นิ้ว ช่วยให้การดูจอหลังระหว่างถ่ายวีดีโอได้สบายมากขึ้น 

4.เป็นกล้องสำหรับ Live สดมากขึ้น

ในรุ่นก่อนๆการ Live สดของโกโปรจะทำงานผ่านแอพลิเคชั่น Gopro ที่ต้องเชื่อมผ่านสัญญาณไร้สาย ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นวิธีที่ตอบโจทย์สายท่องเที่ยวหรือกีฬา EXtream แต่ในช่วงที่มีระบาดของโควิด คนใช้งานกล้องโกโปรพยายามหาวิธีที่ใช้โกโปรสามารถไลฟ์สดกับคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปผ่านสาย USB ให้เป็น webcam ทำให้โกโปรออกซอฟแวร์ที่มาช่วยแก้ปัญหาให้ผู้ใช้งาน และนำมาสู่การใส่ฟีเจอร์นี้ลงในเฟิร์มแวร์ของกล้องรุ่นใหม่นี้ไปเลยทำให้เปิดทางเลือกให้การ Live สดของ GoPro มีมากขึ้น

5.เทคโนโลยีกันสั่น 3.0 

เวลาถ่ายวีดีโอเรื่องการสั่นไหวถือเป็นเรื่องปวดหัวของใครหลายคน ซึ่งระบบกันสั่นของโกโปรถือเป็นข้อเด่นข้อดังของของกล้องที่ให้ความนิ่งเกือบเท่ากับการถือกิมบอล ซึ่งทางโกโปรยังคงไม่หยุดพัฒนาจนออกมาเป็นเวอร์ชั่น 3.0 ทั้ง Hypersmooth 3.0, Timewarp 3.0 เป็นการทลายขีดจำกัดของกล้องให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น  Hypersmooth 3.0 เพิ่มขีดความสามารถของ โหมด Horizonleving และระบบกันสั่นได้จนถึงวีดีโอความละเอียด  5k  ส่วน Timewarp 3.0 ก็สามารถใช้กับวีดีโอ 4K โดยยังสามารถใช้ speed ramp เหมือนรุ่น 8 

6.แบตเตอรี่ทึกทนทานขึ้น

แบตเตอรี่เป็นเรื่องที่แฟนคลับอยากให้มีการพัฒนาให้ใช้งานได้นานมากขึ้น ซึ่งโกโปรก็สนองตอบโดยมีการเพิ่มพลังงานขึ้น 30% ตอบโจทย์การถ่ายวีดีโอระดับ 5K ที่กล้องมีอยู่ และหากผู้ใช้งานถ่ายความละเอียด FHD จะช่วยให้เราสามารถถ่ายวีดีโอได้นานมากขึ้นกว่าแต่ก่อนที่ถ่ายได้ประมาณ 1 ชั่วโมง