เหตุผลที่ควรใช้ไมโครโฟนไร้สาย LENSGO 348C สำหรับการถ่ายวิดีโอและการทำคอนเทนต์

ไมโครโฟนไร้สาย Lensgo 348C

ข้อดีของการใช้ไมโครโฟนไร้สายLensgo 348C สำหรับ Content Creator มือใหม่

ไมโครโฟนไร้สาย Lensgo 348C

คนที่เริ่มต้นทำคอนเทนต์วิดีโอลง YouTube หรือว่าคอนเทนต์วิดีโอรีวิวที่ต้องมีการบันทึกเสียงด้วยผมเชื่อว่าต้องเจอปัญหาทั้งเรื่องของการทำงานความคาดหวังในคุณภาพของตัววิดีโอคาดหวังในคุณภาพของเสียงที่ได้รับด้วย

ซึ่งในคอนเทนต์ตอนนี้ผมจะแนะนำคนเริ่มต้นหรือ Creator มือใหม่ที่กำลังถ่ายทำวิดีโอพร้อมบันทึกเสียงไปด้วยว่าการใช้ไมโครโฟนไร้สายLensgo 348C จะช่วยเราได้ยังไงหากเราเป็นมือใหม่เริ่มต้นและเพิ่งหัดทำคอนเทนต์ครับ

1. ช่วยให้การบันทึกเสียงทำได้ง่ายและได้เนื้อเสียงที่ดีคมชัดมาก

สิ่งแรกที่เราจะได้รับก็คือเรื่องของคุณภาพเนื้อเสียงที่ดีขึ้นทันทีไม่ว่าจะเป็นเสียงพูดหรือว่าเสียงบรรยากาศที่เราได้รับครับคือไมโครโฟนLensgo 348C นั้นจะเป็นไมโครโฟนที่ออกแบบมาสำหรับการบันทึกเสียงพูดได้อย่างคมชัดและสามารถที่จะเก็บเสียงบรรยากาศโดยรอบได้ในระดับที่ดีเลยทีเดียว

ทำให้เวลาที่เราต้องถ่ายทำวิดีโอและบันทึกเสียงไปด้วยไม่ว่าจะเป็นการทำรายการแบบที่ต้องมีพิธีกรการถ่ายวิดีโอรีวิวได้เนื้อเสียงที่มีความคมชัดเสียงพูดก็โดดเด่นคนฟังสามารถสัมผัสได้ถึงบรรยากาศจริงทำให้คอนเทนต์ของเราสื่อสารได้อย่างเต็มที่คุณภาพงานวิดีโอของเราในด้านเสียงก็ดีขึ้นด้วยครับ

จุดเด่นคือไมโครโฟนตัวนี้คือเราไม่ต้องตั้งค่าอะไรให้ซับซ้อนเลย แค่เปิดตัวไมโครโฟนแล้วก็ต่อไมโครโฟนเข้ากับอุปกรณ์ทุกอย่างก็พร้อมแล้ว

ไมโครโฟนไร้สาย Lensgo 348C

2. ตอบโจทย์ในการใช้ไมโครโฟนร่วมกับอุปกรณ์อื่น ๆ เช่นกล้องการเซ็ตกล้องร่วมกับกิมบอลหรือการใช้ไมโครโฟนแยกต่อเพิ่มสำหรับการทำงานที่ซับซ้อน

ในการทำงานด้านวิดีโอนั้นเราไม่ได้ใช้แค่กล้องและไมค์เพียงอย่างเดียวบ่อยครั้งที่เราต้องต่อกล้องและไมโครโฟนร่วมกับอุปกรณ์อื่นเช่น Gimbal Stabilizer สำหรับการถ่ายคอนเทนต์ที่ต้องการความนิ่งของกล้องด้วยหรือว่าจะเป็นการติดตั้งร่วมกับขาตั้ง, หรือชุด Cage ในการทำงานด้านวิดีโอ

ไมโครโฟนตัวนี้สามารถที่จะทำงานร่วมกับกล้องที่ติดตั้งกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ทันทีให้การทำงานในทีมเป็นไปอย่างราบรื่นครับเพราะตัวขนาดของไมโครโฟนการนำไมโครโฟนไปติดตาม Cold Shoe, Hot Shoe ของกล้องก็สามารถทำได้ง่ายและตัวไมโครโฟนมีน้ำหนักเบาทำให้ Workflow การทำงานของทีมนั้นไม่ซับซ้อนลุยงานหนักได้เลย

ไมโครโฟนไร้สาย Lensgo 348C

3. อุปกรณ์ใช้งานไม่ซับซ้อน ช่วยให้ทีมงานหรือคนที่ไม่เก่งเรื่องระบบเสียงก็สามารถใช้งานได้ง่าย

ตัวไมโครโฟนนั้นสามารถทำงานได้ง่ายเข้าใจได้ง่ายแม้ไม่ได้ใช้คู่มือ ทำให้ทีมงานของเราไม่ต้องปวดหัวกับการทำงานหรือต้องมาเรียนรู้ใหม่ซึ่งเป็นเรื่องเสียเวลา

หน้าจอของไมโครโฟนนั้นมีการบอกสถานะการทำงานทุกอย่างในการแสดงผลแต่ละจุดมีไอคอนเล็ก ๆ ที่คอยบอกว่าไมโครโฟนตัวนี้กำลังทำงานแบบไหนตัวอุปกรณ์สามารถสื่อสารกับผู้ใช้งานได้ง่ายและใช้งานไม่ซับซ้อนอะไรเลย

จุดเด่นตรงนี้ทำให้ทีมงานเล็ก ๆ ที่ไม่ได้มี Professional ในทีมเยอะก็สามารถที่จะทำงานกับเสียงได้ง่ายและได้คุณภาพเสียงที่ดีด้วยทำให้การทำงานประหยัดเวลาไม่ต้องใช้ทีมงานที่เยอะเกินไปสะดวกกับคนเริ่มต้นมาก ๆ ครับ

ไมโครโฟนไร้สาย Lensgo 348C

4. ใช้ร่วมกันกับกล้อง Smartphone, GoPro และกล้อง Mirrorless ได้ทันที

ทีมงานที่เป็น Content Creator ระดับเริ่มต้นนั้นมีอยู่หลายระดับด้วยกันมีทั้งทีมที่มีกล้องแบบ Professional เลยแต่คนเริ่มต้นบางกลุ่มก็อาจจะมีแค่กล้อง GoPro หรือแค่ Smartphone เท่านั้นสิ่งที่Lensgo 348C ทำให้ได้ก็คือสามารถใช้งานกับกล้องขนาดเล็กและ Smartphone ได้เลย


ซึ่งนี่เป็นจุดเด่นที่ดีมากเพราะงานด้านวิดีโอนั้นตัวกล้องแม้จะเป็นส่วนสำคัญแต่กล้องอย่าง GoPro และSmarpthoneก็สามารถที่จะสื่อสารได้เข้าใจและยังได้คุณภาพเสียงที่ดีในระดับมืออาชีพด้วยทำให้ไม่ต้องลงทุนกับกล้องที่สูง เพียงแค่กล้องขนาดเล็กคุณก็สามารถที่จะถ่ายวิดีโอและบันทึกเสียงได้ทันที

ไมโครโฟนไร้สาย Lensgo 348C

5. การลงทุนไม่สูงได้อุปกรณ์ครบชุดสำหรับการบันทึกเสียงและพร้อมใช้งานทันที

จุดเด่นอีกด้านก็คือในเรื่องของการลงทุนครับLensgo 348C นั้นลงทุนไม่สูงทีมงานสำหรับคนเริ่มต้นก็สามารถที่จะมีไมโครโฟนบันทึกเสียงดี ๆ ใช้ได้เลยและเป็นไมโครโฟนไร้สายแบบ 2 ตัวส่ง 1 ตัวรับด้วยช่วยให้การทำงานนั้นง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้นในงบประมาณที่เหมาะสม

ไมโครโฟนไร้สาย Lensgo 348C

หากลูกค้าสนใจสินค้าสามารถเลือกชมได้ตามลิ้งค์ด้านล่างเลยค่ะ
คลิกเลย
ไมโครโฟนไร้สาย LENSGO 348C