ตอนนี้ผมจะมาแนะนำวิธีการเลือกซื้อไมโครโฟนสำหรับคนเริ่มต้น คงมีปัญหากันบ้างแหละว่าควรซื้อแบบไหน มีวิธีคิดยังไงเพื่อให้คุ้มค่าสำหรับมือใหม่ ต้องดูอะไรบ้างเดี๋ยวเรามาหาคำตอบในคอนเทนต์นี้กัน
1. ต้องรู้ว่าอยากได้ไมโครโฟนไปการใช้งานแบบไหนหรือถ่ายงานอะไร
อย่างแรกคือเราก็ต้องรู้ก่อนว่าเราอยากได้ไมโครโฟนมาใช้งานสำหรับอะไร เช่น การทำคอนเทนต์วิดีโอ การทำ Vlog หรือจะพอรู้แค่ว่าใช้บันทึกเสียงพูดก็ยังดีครับ เพราะจะได้กำหนดได้ว่าควรเลือกไมโครโฟนที่เก่งในด้านไหนมาใช้
2. สถานที่ที่จะใช้งานเป็นหลัก เช่น สตูดิโอ งานอีเวนต์
ประเด็นต่อมาคือลักษณะสถานที่ครับว่าเราจะต้องเจอสถานที่แบบไหน ส่วนนี้สำคัญตรงพื้นที่นั้น ๆ เนี่ยสะดวกต่อการบันทึกเสียงหรืออุปสรรคมากน้อยแค่ไหนครับ
ยกตัวอย่างในสตูดิโอ เราสามารถคุมทั้งคน ทั้งเสียงบรรยากาศรอบ ๆ ได้ค่อนข้างดี อาจจะเลือกใช้ไมโครโฟนได้หลากหลาย เช่น ไมค์ช็อตกันก็ได้ ไมค์โครโฟนไร้สายอย่าง Lensgo 348C ก็ได้ครับ
แต่ถ้าหากเป็นโลเคชั่นนอกสถานที่ มีงานอีเวนต์อาจจะต้องเลือกได้แค่ไมโครโฟนไร้สาย Lensgo 348C เป็นหลักเพราะความเรียบง่ายและเหมาะสมกับการบันทึกเสียงพูดนอกสถานที่มากกว่า
3. มีพิธีกรในการพูดคนเดียว หรือสองคนขึ้นไป
อีกข้อมูลประกอบนึงสำหรับการเลือกไมโครโฟนมาใช้คือ คอนเทนต์ที่เราถ่ายทำมีพิธีกรพูดกี่คน ถ้าหากว่าคนเดียวอาจจะเลือกเป็นไมโครโฟน Shotgun ก็ได้ หรือถ้าพูดคนเดียวและถ่ายใน Studio อาจจะใช้ไมโครโฟนที่ติดตั้งกับโต๊ะก็ได้
แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เน้นความสะดวก หรือพิธีกรพูดสองคนขึ้นไป ไมโครโฟนที่เหมาะสมก็มักจะเป็นไมโครโฟนแบบไร้สายที่ต้องมีตัวส่งสัญญาณ 2 ตัว ต่อตัวรับ 1 ตัวเป็นต้นครับ
4. ต้องการเสียงพูดเป็นหลัก หรือใช้สำหรับการร้องเพลง บันทึกเสียงเครื่องดนตรี
อีกเรื่องคือเราต้องการเสียงพูดเป็นหลักหรือเพื่อการบันทึกเสียงงานด้านดนตรี เพราะไมโครโฟนที่ใช้สำหรับสองงานนี้ก็จะมีความแตกต่างกันแบบชัดเจนมาก
ถ้าหากเสียงร้อง เราอาจจะเลือกใช้ไมโครโฟนแบบ Dynamic หรือ Condenser ก็ยังได้เลย ลักษณะก็จะเหมือนไมโครโฟนร้องเพลงครับ
แต่ถ้าหากเครื่องดนตรีเป็นชิ้น มีการเก็บรายละเอียดเสียงที่ละเอียดอ่อนก็ต้องเป็นไมโครโฟนแบบ Condenser ที่จะไวต่อการรับเสียงมาก ๆ
สำหรับการทำคอนเทนต์ประเภทบันทึกเสียงพูดนั้นด็ต้องเป็นไมโครโฟนแบบ Wireless ก็น่าจะเหมาะสมกว่าเพราะออกแบบมาให้เก็บเสียงพูดเป็นหลักและสามารถทำงานได้ง่าย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมในการบันทึกเสียง
5. บันทึกลงกล้องโดยตรง เข้าคอม หรือต่อกับ Audio Interface อื่น
อีกเรื่องที่ต้องคิดด้วยคือเวลาที่เราใช้งาน เราต้องการที่จะต่อเข้ากล้องโดยตรงเลยไหม หรือต้องใช้งานกับ Audio Interface อื่นอีก เพราะสายต่อพวกนี้จะไม่เหมือนกัน
– การต่อระหว่างไมโครโฟนไปที่กล้องโดยตรงจะใช้สาย TRS to TRS
– การต่อระหว่างไมโครโฟนไปยัง Audio Interface จะใช้ไมโครโฟนที่เป็นสายต่อแบบ XLR
– การต่อระหว่างไมโครโฟนไปยัง Laptop, PC จะใช้ไมโครโฟนที่เป็นสายต่อแบบ USB ตรง หรือแบบสายต่อแบบ XLR เข้า Audio Interface และต่อเข้าคอมอีกที
จะเห็นได้ว่าไมโครโฟนเมื่อมีการใช้งานกับอุปกรณ์ที่แตกต่างกันนั้น วิธีการก็จะแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ
นี่ก็เป็นเรื่องพื้นฐานที่มือใหม่ควรจะรู้ไว้ก่อนที่จะเลือกซื้อไมค์มาใช้ครับ ถ้าหากซื้อไม่ตรงกับงาน อาจจะได้เสียงที่ไม่ตรงความต้องการ ใช้งานยาก หรืออาจะต่อเข้ากับอุปกรณ์ของเราไม่ได้เลย