ใกล้วันหยุดปีใหม่เข้ามาทุกที ใครที่กำลังมีแผนท่องเที่ยวหรือหาสถานที่พาคนรู้ใจไปถ่ายรูปทั้งไฟกลางคืนสวยๆ แต่ไม่อยากจะยกชุดอุปกรณ์รุ่นใหญ่ไปให้เมื่อยไหล่ วันนี้ EC-Mall จะพาไปรู้จักกับเลนส์ช่วง normal ค่าย Olympus อย่าง M.ZUIKO DIGITAL ED 12-40mm F2.8 PRO เลนส์ขนาดเบาที่มีน้ำหนักเพียง 382 กรัมเท่านั้นรวมถึงขนาดเล็กพกพาสะดวก ดูรวมๆแล้วไม่ได้สะดุดตามากเท่าไร และในเมื่อเลนส์เล็กแล้วกล้องที่ใช้จึงจัด Olympus EM 10 Mark IIกล้องตัวเล็ก มหานิยมจากค่ายโอลิมปัสมาเป็นคู่หู เดินถ่ายเบาๆ ทั้งแนว portrait และ landscape ซึ่งครั้งนี้ทีมงานได้มีโอกาสเดินทางไปถ่ายไฟสวยๆที่ ณ สัทธา อุทยานไทย ที่ตอนนี้มีการจัดแสดงไฟกลางคืน จนถึงวันที่ 6 มกราคมปีหน้า
สำหรับเลนส์ M.ZUIKO DIGITAL ED 12-40mm F2.8 PRO เป็นเลนส์ระดับโปรที่มีค่ารูรับแสงกว้างสุด 2.8 ตลอดทุกช่วงช่วยให้การถ่ายภาพในที่มีแสงน้อยได้คุณภาพมากขึ้น โดยทางโอลิมปัสใส่ชิ้นเลนส์พิเศษมาให้เต็มที่ทั้ง Spherical ED, Aspherical DSA ช่วยให้เลนส์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและภายในเลนส์มีชื้นเลนส์อยู่ 14 ชิ้น แบ่งเป็น 9 กลุ่มพร้อมแผ่นไดอะเฟรม 7 ใบ ให้ไฟแฉกกลางคืนออกมาได้ โดยในภายในกล้องที่ซื้อมานั้นจะมี เลนส์ฮู้ด เคสใส่เลนส์และฝาครอบเลนส์ด้านหน้า ด้านหลังมาให้ครบๆ
สำหรับภายนอกมีการออกแบบโครงสร้างให้สามารถป้องกันน้ำและAir Permeable อย่างดีช่วยป้องการน้ำซึมและการไหลของอากาศรวมถึงซีลป้องกัน ละอองน้ำ ฝุ่นและอากาศหนาวเย็น ทำให้เลนส์สามารถถ่ายภาพได้หลากหลายภูมิอากาศมากยิ่งขึ้นรองรับการทำงานในสภาพอากาศที่แย่ได้ แต่ไม่ควรนำไปจุ่มน้ำหรือถ่ายใต้น้ำ ส่วนผิวหน้าเลนส์ทางโอลิมปัสจัดหนักใส่ ZERO Coating เทคโนโลยีเอกลักษณ์เฉพาะของ Olympus จัดการปัญหาเรื่องแสงฟุ้งและแสงแฟลร์รบกวนภาพเวลาถ่ายย้อนแสง
ด้านฟีเจอร์เด่นของเลนส์ ระดับโปรคือเรื่องของกลไกคลัตช์ของระบบโฟกัสที่ช่วยให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนจากระบบออโต้โฟกัสเป็นแมนนวลโฟกัสได้อย่างรวดเร็วเพียงดึงวงแหวนโฟกัสเข้าหาตัวเท่านั้นและระบบออโต้โฟกัสเองยังมีกลไกMSC (Movie and Still Compatible) และมอเตอร์เชิงเส้น (linear motor) ช่วยให้การทำงานของระบบโฟกัสเงียบ รวดเร็วทั้งรองรับการทำงานของช่างภาพและช่างวีดีโอได้
และอีกหนึ่งความสามารถสุดพิเศษของเลนส์ M.ZUIKO DIGITAL ED 12-40mm F2.8 PRO คือประสิทธิภาพการถ่ายภาพมาโครที่สามารถถ่ายภาพโคลสอัพได้สูงสุดที่ระยะ 7 ซม. จากหน้าเลนส์และยังมีอัตราการขยายสูงสุด 0.6x เรียกว่าเป็นเลนส์ที่สารพัดประโยชน์มากที่สุดเลนส์นึงเลยก็ว่าได้
จากการใช้งานจริงในพื้นที่ โดยทีมงานมีโอกาสได้เข้าไปถ่ายภาพที่ ณ สัทธา อุทยานไทย ที่ตอนนี้มีการจัดไฟสวยงามต้อนรับปีใหม่ด้วยกันถึง 8 โซนบนแนวคิดเรื่องของความรู้ไม่ได้มีแค่ในห้องเรียนและตำรา โดยทีมงานใช้เลนส์ค่ายโอลิมปัสถ่ายทั้งแนวบุคคลและภาพ Lanscape เพื่อเก็บภาพบรรยากาศสวยๆของสถานที่ ความดีงามสิ่งแรกคือขนาดที่สุดกะทัดรัด ยิ่งจับคู่กับ Olympus EM10 Mark II ของทีมงานเรียกว่าเบาสบายเดินถ่ายชิลๆไม่มีซีเรียสเพราะมีแค่ขาตั้ง 1 ตัว เลนส์และกล้องอย่างละหนึ่งเดินเที่ยวถ่ายสาวสบายๆ ตัวเลนส์ทำงานได้เงียบรวดเร็วไม่มีอาการหมุนล้อฟรีให้ปวดหัวในบางสถานการณ์ก็ยังสามารถปรับเป็นแมนนวลโฟกัสได้รวดเร็ว ในเรื่องแสงแฟลร์เองมีบางในบางกรณีและในช่วงที่แสงย้อนมาเต็มๆก็จะมีออกมาทักทายบ้างนิดหน่อย ไฟแฉกจากที่ทีมงานถ่ายจะเป็นไฟแฉกแหลมสวยเก๋ดี ส่วนโบเก้อาจจะสู้พวกเลนส์ฟิกไม่ได้เพราะรูรับแสงไม่ได้กว้างมากแต่ก็เป็นทรงกลมเล็กๆ รวมๆก็สวยดี ส่วนปัญหาขอบม่วงจากที่ใช้ยังไม่เห็นมีมาทักทายแต่เวลาย้อนแสงอาจจะมีแสงม่วงทักทายบางโอกาสเช่นกันแต่ไม่ค่อยเห็นกันง่ายๆ ส่วนอาการบิดเบี้ยวของช่วงระยะกว้างสุดไม่มีอาการเบี้ยวให้เห็น สำหรับเลนส์นี้เมื่อใช้กับกล้องที่มีเซนเซอร์ขนาด 4/3 จะคูณระยะไป 2 เท่า แต่รวมๆแล้วเป็นเลนส์ที่เดินถ่ายกันสนุกสนานเลนส์หนึ่งมากทีเดียว
สำหรับใครที่อยากท่องเที่ยวช่วงปีใหม่ๆใกล้กรุงเทพหรืออยากพาครอบครัวเดินชมไฟและถ่ายภาพสวยๆ ตอนนี้ที่ ณ สัทธา อุทยานไทยมีเทศกาล มหัศจรรย์แห่งความเบิกบาน ส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ เริ่มตั้งแต่ 29–30ธันวาคม 2561และ 1, 5-6มกราคม2562 งานดีๆ ถ่ายภาพสวยๆ อาหารอร่อยรีบไปกันนะครับ
คะแนนความชอบเลนส์ 7/10