Sony A7C II Mirrorless Camera

เซนเซอร์ฟูลเฟรม 33MP Exmor R™ – คุณภาพภาพคมชัด สีสันแม่นยำ รองรับงานระดับโปร

AI Autofocus อัจฉริยะ – โฟกัสติดตามดวงตา (Real-time Eye AF) ทั้งคน สัตว์ และนก

ถ่ายวิดีโอ 4K 60p 10-bit 4:2:2 – คุณภาพสูง รองรับงานภาพยนตร์และ Vlog

กันสั่น 5 แกน – ช่วยลดการสั่นไหวของภาพ ถ่ายวิดีโอและภาพนิ่งได้อย่างคมชัด

บอดี้กะทัดรัด น้ำหนักเบา – เพียง 514 กรัม พกพาง่าย เหมาะสำหรับสายท่องเที่ยว

S-Cinetone & Log – เกรดสีได้ง่าย ตอบโจทย์งานวิดีโอมืออาชีพ

รองรับ USB-C PD ชาร์จเร็ว – ใช้งานได้ต่อเนื่อง ไม่ต้องพึ่งแบตเสริม

จุดเด่นผลิตภัณฑ์ Sony A7C II Mirrorless Camera

• เซ็นเซอร์ Exmor R BSI ฟูลเฟรม 33MP
• โปรเซสเซอร์ภาพ BIONZ XR
• ถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 10 fps, ISO 50-204800
• วิดีโอ 4K30p ฟูลเฟรม 10 บิต
• S-Log3, S-Gamut3, S-Cinetone, User LUTs
• ระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัว 7 สต็อป
• การตรวจจับเฟส 759 จุด, Coverage 94%
• ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ OLED ความละเอียด 2.36 ล้านจุด
• หน้าจอสัมผัส LCD ปรับมุมได้ ขนาด 3 นิ้ว 1.03m-Dot

ตัวอย่างภาพถ่าย Photo Gallery

มันคืออะไรมีอะไรใหม่?

The a7C II crams a lot of impressive specs into a reasonably compact full-frame body.

Sony a7C II ได้รับการอัปเกรดเล็กน้อยจากรุ่นก่อน รวมถึงเซ็นเซอร์ใหม่ที่มีความละเอียดสูงกว่า โปรเซสเซอร์ที่ได้รับการอัปเดต ช่องมองภาพกำลังขยายที่สูงขึ้น ออโต้โฟกัสที่ปรับปรุงด้วย AI แป้นหมุนควบคุมด้านหน้าและด้านหลัง และวิดีโอ 4K/60p ที่สุ่มตัวอย่างเกินขนาด ทั้งหมดนี้มาพร้อมกับราคาสติกเกอร์ที่สูงขึ้น (แต่ชอล์กนั้นขึ้นอยู่กับอัตราเงินเฟ้อ)

เซนเซอร์และโปรเซสเซอร์ใหม่

ด้วยการใช้เซ็นเซอร์ BSI CMOS ความละเอียด 33MP และโปรเซสเซอร์ Bionz XR เช่นเดียวกับ Sony a7 IV ในปี 2021 กล้อง a7C II ยังได้รับประโยชน์จากหน่วยประมวลผล ‘AI’ เพิ่มเติมเพื่อช่วยในการจดจำวัตถุและคุณสมบัติต่างๆ เช่น การจัดกรอบอัตโนมัติ เราเห็นโปรเซสเซอร์รองรูปแบบนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งมีไว้สำหรับการจัดการอัลกอริธึมการเรียนรู้ของเครื่องโดยเฉพาะใน a6700 และ ZV-E1 หมายเหตุ: a7 IV ไม่มี

พลังการประมวลผลเพิ่มเติมควรทำให้ a7C II มีข้อได้เปรียบด้านโฟกัสอัตโนมัติเหนือทั้งรุ่นก่อนและ a7 IV โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นเรื่องของการตรวจจับใบหน้าและดวงตา และโหมดติดตามวัตถุเฉพาะ เราประทับใจกับประสิทธิภาพของ AF ของ a6700 ในการทดสอบภาคสนามและในห้องปฏิบัติการ และหวังว่าจะได้เห็น a7C II แบบนี้อีก การตั้งค่าโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ยังนำคุณสมบัติอื่นๆ ที่ Sony เพิ่งเพิ่มเข้ามา เช่น การถ่ายคร่อมโฟกัส การสร้างไทม์แลปส์ในกล้อง และการปรับปรุงวิดีโอมากมาย

ในทางกลับกัน เซ็นเซอร์ 33MP ที่อัปเดตจะไม่ให้ความได้เปรียบด้านคุณภาพของภาพที่มีนัยสำคัญใดๆ เหนือชิป 24MP ที่พบใน a7C ดั้งเดิม คุณอาจเห็นรายละเอียดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในภาพที่มี ISO ต่ำ แต่ก็ต้องแลกกับช่วงไดนามิกและรายละเอียดบางส่วนในภาพที่มี ISO สูง ในทางกลับกัน จะทำให้มี Rolling Shutter เพิ่มขึ้นเล็กน้อยในวิดีโอ ถึงกระนั้น ความประทับใจครั้งแรกของเราเกี่ยวกับประสิทธิภาพคุณภาพของภาพก็ยังเป็นบวก

Out of camera JPEG.
Sony 16-35mm f/2.8 GM II | ISO 100 | 1/1250 sec | f/2.8 | 35mm
Photo: Dan Bracaglia

แป้นหมุนควบคุมด้านหน้าและการปรับปรุง EVF

การออกแบบอันดับหนึ่งของเรากับ a7C รุ่นดั้งเดิมคือการไม่มีวงแหวนควบคุมด้านหน้า เรารู้สึกว่าราคา 1,800 เหรียญสหรัฐฯ คุณควรจะปรับการตั้งค่าการเปิดรับแสงด้วยนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ได้พร้อมๆ กัน และเรายังคงรู้สึกเช่นนี้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่เรายินดีที่ Sony คำนึงถึงความคิดเห็นของเรา (และของคุณ) บางครั้งสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่สร้างผลกระทบได้มากที่สุด

ผลจากวงแหวนใหม่นี้ ทำให้กล้องจับได้ดีขึ้นมาก

การอัพเกรดอีกอย่างที่ปรับปรุงการใช้งานคือ Sony ย้ายจากช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์กำลังขยาย 0.59x ไปเป็น 0.7x a7C II ยังคงใช้แผงจุด 2.36M ซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อย ด้วยระยะขอบที่บางซึ่งสร้างความแตกต่างให้กับรุ่นต่างๆ ในตลาดปัจจุบัน แผงจุด 3.69M จะทำให้กล้องนี้โดดเด่นกว่ากลุ่มอื่นๆ
การสุ่มตัวอย่าง 4K/60p มากเกินไป และการปรับปรุงวิดีโออื่นๆ

ที่ด้านหน้าวิดีโอภายใน a7C II นั้นเข้าคู่กับ a7 IV ในแง่ของเอาท์พุตและความสามารถ คุณจะได้รับวิดีโอ 4K/30p ที่มีการสุ่มตัวอย่างเกินขนาดจากการครอบตัด 7K, วิดีโอ 4K/60p ในโหมด Super 35 (ครอบตัด APS-C) และการจับภาพ Full HD ที่สูงถึง 120 fps โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตอนนี้วิดีโอ 4K/30p เป็นแบบ 10 บิตพร้อมการสุ่มตัวอย่างสี 4:2:2 ซึ่งเป็นก้าวสำคัญจาก a7C รุ่นก่อนหน้า ทำให้บันทึกมีความยืดหยุ่นมากขึ้นและการจับภาพวิดีโอ HLG HDR ที่เหมาะสม

สำหรับผู้ที่มั่นใจในกระบวนการหลังการผลิต คุณยังได้รับ S-Log3 และ S-Cinetone ของ Sony รวมถึง LUT ที่ผู้ใช้กำหนดได้ LUT เหล่านี้สามารถใช้เพื่อแสดงตัวอย่างที่ถูกต้อง โดยฝังไว้ข้างฟุตเทจเพื่อใช้ในการแก้ไขหรือเขียนลงในฟุตเทจโดยตรงเมื่อคุณถ่ายภาพ

คุณสมบัติเด่นอื่นๆ ของวิดีโอและการอัปเกรด ได้แก่ การชดเชยการหายใจแบบโฟกัส การจดจำ/การติดตามวัตถุ AF ของวิดีโอที่ได้รับการปรับปรุง และโหมดการจัดเฟรมอัตโนมัติ คุณสมบัตินี้ใช้อัลกอริธึมที่ได้รับการฝึกอบรมจาก AI เพื่อเลียนแบบวิธีที่ผู้ควบคุมกล้องอาจเจาะวัตถุ โดยที่ยังคงรักษาทั้งกรอบภาพและอยู่ในโฟกัส และเป็นวิธีที่สะดวกในการถ่ายภาพตัวคุณเองให้ดูเป็นมืออาชีพโดยไม่ต้องมีคนควบคุมกล้องอยู่ด้านหลังเลนส์

ที่ด้านหน้าวิดีโอภายนอก a7C II สามารถสตรีม 4K/30p ผ่าน USB-C โดยใช้โปรโตคอล UVC/UAC (หมายความว่ามันทำหน้าที่เป็นเว็บแคม USB เท่านั้น: ไม่จำเป็นต้องมีไดรเวอร์หรือซอฟต์แวร์เฉพาะทาง)

a7C II มีข้อดีหลายอย่างแต่การแข่งขันในตลาดมิเรอร์เลสฟูลเฟรมสำหรับผู้ชื่นชอบนั้นยังคงรุนแรง

ในหลาย ๆ ด้าน a7C II เหนือกว่าทั้งรุ่นก่อนซึ่งไม่น่าแปลกใจและ Sony a7 IV ที่จริงแล้ว ข้อได้เปรียบที่โดดเด่นเพียงอย่างเดียวที่ a7 IV มอบให้เหนือรุ่นลูกพี่ลูกน้องที่เล็กกว่าและราคาต่ำกว่าคือ EVF ที่ดีกว่าและช่องเสียบการ์ดคู่

Panasonic S5 II เป็นอีกรุ่นที่มีราคาใกล้เคียงกันซึ่งทำให้ a7C II คุ้มค่าเงินอย่างแท้จริงในเกือบทุกด้าน ยกเว้นขนาด น้ำหนัก และอายุการใช้งานแบตเตอรี่

กล้องอีกตัวที่ควรค่าแก่การเปรียบเทียบ a7C II ถึงแม้ว่าจะมีราคาแพงกว่า (และไม่ได้อยู่ในตารางด้านบน) ก็คือ Canon EOS R6 II ซึ่งมีอัตราการถ่ายภาพต่อเนื่องที่เร็วกว่า (กลไก 12 fps), IBIS ที่มีพิกัดสูงกว่า (8.0EV), เต็มรูปแบบ ความกว้าง 4K/60p ช่องมองภาพที่สวยงามยิ่งขึ้น และช่องเสียบการ์ดคู่ ดังที่กล่าวไว้ เราคาดหวังว่า a7C II จะมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Canon ในด้านออโต้โฟกัสและการติดตามวัตถุด้วยระยะขอบที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโหมดวิดีโอ

Body & handling

ปุ่มหมุนด้านหน้าใหม่อยู่ใต้ปุ่มชัตเตอร์เพื่อให้เข้าถึงได้ง่าย

Sony a7C II ดูเหมือน a7C มาก โดยมีการดัดแปลงเล็กน้อย สิ่งที่น่าสังเกตมากที่สุดคือการมีปุ่มหมุนควบคุมด้านหน้า เมื่อพิจารณาจากขนาดแล้ว a7C II จึงมีความสูงและความกว้างเท่ากับรุ่นก่อน แม้ว่าจะมีความหนามากกว่า 4 มม. และหนักกว่า 5 กรัมก็ตาม และแม้ว่าจะไม่ใช่กล้องที่สร้างสรรค์หรือน่าตื่นเต้นที่สุดในแง่ของการออกแบบ แต่ก็สามารถจัดการได้ดี เรารู้สึกอยู่เสมอว่า Sony ให้ความสำคัญกับฟังก์ชันมากกว่ารูปแบบเล็กน้อย

ตัวเครื่องสร้างจากแมกนีเซียมอัลลอยด์ และ Sony กล่าวว่าตัวเครื่องถูกสร้างขึ้นในลักษณะที่ทำให้ทนทานต่อฝุ่นและความชื้น เมื่อถือกล้องในมือก็จะรู้สึกสบายและให้ความรู้สึกมั่นคง นอกจากนี้ ปุ่มหมุนด้านหน้าแบบใหม่ยังให้ความรู้สึกอยู่ในตำแหน่งที่ดี โดยอยู่ใต้ปุ่มชัตเตอร์พอดี

หน้าจอสัมผัสที่เชื่อมต่อได้เต็มรูปแบบช่วยให้สามารถถ่ายเซลฟี่และ vlog ได้

ด้านหลังของ a7C II ส่วนใหญ่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากรุ่นก่อน แม้ว่าคุณจะมีปุ่มฟังก์ชันแบบกำหนดเองเพิ่มเติมหนึ่งปุ่ม ซึ่งอยู่ระหว่างปุ่มหมุนควบคุมด้านหลังด้านล่างและปุ่มเมนู จอแสดงผลด้านหลังที่ 1.03M จุด มีความละเอียดสูงกว่ารุ่นก่อนเล็กน้อย (0.92M) แต่ความแตกต่างไม่ได้สังเกตเห็นได้ชัดนัก ในการใช้งานอินเทอร์เฟซแบบสัมผัสตอบสนองได้ดีมาก

ด้านบนของกล้องยังดูค่อนข้างคล้ายกับ a7C แต่มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย สิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นวงแหวนชดเชยแสงโดยเฉพาะ ตอนนี้กลายเป็นวงแหวนกำหนดเองที่ว่างเปล่า Sony ยังได้เพิ่มตัวเลือกสามทาง ซึ่งคล้ายกับที่พบใน a7 IV ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถข้ามจากภาพนิ่งไปยังวิดีโอไปยังโหมด ‘S&Q’ ได้อย่างง่ายดาย คุณจะพบว่ามันซ่อนอยู่ใต้ปุ่มหมุนเลือกโหมดด้านหลัง

และเช่นเดียวกับกล้อง Sony รุ่นล่าสุด ผู้ใช้สามารถปรับแต่งการตั้งค่า เมนู และอื่นๆ ได้อย่างอิสระสำหรับการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ

สามารถชาร์จ a7C II ผ่าน USB-C ได้ พอร์ตนี้ยังช่วยให้สามารถถ่ายโอนรูปภาพและวิดีโอตลอดจนการสตรีมสดได้

EVF มองเห็นกำลังขยายเพิ่มขึ้นเป็น 0.70x แต่แผงยังคงมีขนาด 2.36M จุด ซึ่งบางคนอาจพบว่าน่าผิดหวัง นอกจากนี้ยัง (ยังคง) ไม่มีจอยสติ๊ก AF ซึ่งอาจห้ามผู้ใช้รายอื่น (แม้ว่าคุณจะสามารถใช้หน้าจอด้านหลังเพื่อรับ AF ของทัชแพดได้) แต่นี่เป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ที่เป็นประโยชน์มากที่สุดของเราเกี่ยวกับการออกแบบ ควบคู่ไปกับการขาดเสน่ห์

ที่ด้านที่ไม่ยึดจับของ a7C II คุณจะพบช่องเสียบ SD UHS-II เพียงช่องเดียว (ประตูปิดในภาพด้านบน) ช่องด้านบน (เปิด) จะซ่อนไมโครโฟนและพอร์ต USB-C ในขณะที่ช่องด้านล่างช่วยให้ช่องเสียบ HDMI และหูฟังปลอดภัย โปรดทราบว่าทั้งพอร์ตหูฟังและไมโครโฟนมีขนาดมาตรฐาน 3.5 มม.

กล้องใช้แบตเตอรี่ Z ความจุสูงสุดของ Sony; อายุการใช้งานแบตเตอรี่ก็น่าพอใจ

a7C II ใช้แบตเตอรี่ Sony Z รุ่นล่าสุด อย่างไรก็ตาม อายุการใช้งานแบตเตอรี่ต่ำกว่า a7C หรือ a7 IV อย่างเห็นได้ชัด สิ่งนี้น่าจะขึ้นอยู่กับโปรเซสเซอร์ AI รองใหม่และเซ็นเซอร์ความละเอียดสูงกว่า

ตามมาตรฐาน CIPA คุณสามารถคาดหวังได้ 510 ภาพต่อการชาร์จหนึ่งครั้งเมื่อใช้จอแสดงผลด้านหลัง และ 540 ภาพเมื่อใช้ EVF แน่นอนว่า ตัวเลขเหล่านี้เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างอนุรักษ์นิยม และขึ้นอยู่กับวิธีถ่ายภาพและความถี่ในการตรวจสอบภาพ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะได้คะแนนเป็นสองเท่า การให้คะแนนเหนือ 500 ช็อตต่อการชาร์จไม่น่าจะทำให้เกิดความไม่สะดวกสำหรับการถ่ายภาพที่ค่อนข้างบ่อยหลายวัน (แม้ว่าการใช้วิดีโอและ Wi-Fi จะเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น)

ความประทับใจครั้งแรก
By Dan Bracaglia

a7C II มีความหวานมากกว่าองุ่นเหล่านี้มาก แต่มันจะอายุมากขึ้นด้วยเหรอ? JPEG นอกกล้อง
Sony 16-35 มม. f/2.8 GM II | ISO 100 | 1/1250 วินาที | f/2.8 | 35มม
ภาพถ่าย: “Dan Bracaglia”

ฉันมีโอกาสใช้เวลาคุณภาพเล็กๆ น้อยๆ กับ Sony a7C II และรู้สึกประทับใจอย่างมากกับการควบคุม ประสิทธิภาพ และเอาท์พุตของกล้องฟูลเฟรมขนาดกะทัดรัดตัวนี้ ถือเป็นก้าวที่ดีจากรุ่นก่อนอย่างแน่นอน แม้ว่าฉันต้องยอมรับว่าฉันชอบดีไซน์โดยรวมของ a7 IV มากกว่า

เมื่อจับคู่กับเลนส์ 16-35 มม. f/2.8 GM II ใหม่ กล้อง a7C II เดินทางไปกับครอบครัวที่แหล่งผลิตไวน์ของรัฐออริกอนในหุบเขาวิลลาเมตต์ และแม้จะไม่ใช่ดาวเด่นของรายการ นั่นคือปิโนต์ นัวร์ แต่ก็เป็นเพื่อนที่น่ารัก ฉันชอบปุ่มหมุนด้านหน้าทันที และโดยรวมแล้วพบว่า a7C II ใช้งานได้สะดวกอย่างยิ่ง ด้วยส่วนควบคุมที่อยู่ในตำแหน่งที่ดี อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่เหมาะสม และประสิทธิภาพในการตอบสนอง ฉันชอบด้ามจับด้วย

ฉันไม่ได้เจาะลึกการปรับแต่งมากนัก ซึ่งในตอนนี้ทำให้กล้อง Sony ล้นหลามไปเล็กน้อย แต่ฉันพบว่าเมนูล่าสุดของ Sony นั้นง่ายพอที่จะปรับเปลี่ยนทิศทางและนำทางได้ (ฉันเพิ่งทดสอบ a6700)

นอกจากจะได้เพลิดเพลินกับ a7C II ใหม่แล้ว เลนส์ซูมมุมกว้าง GM รุ่นล่าสุดของ Sony ยังทำให้ฉันประทับใจอีกด้วย แม้จะไม่ค่อยประทับใจเท่า Summum Chardonnay ประจำปี 2021 ของ Evening Land ก็ตาม JPEG นอกกล้อง
Sony 16-35 มม. f/2.8 GM II | ISO 100 | 1/1600 วินาที | f/2.8 | 35มม
ภาพถ่าย: “Dan Bracaglia”

อย่างไรก็ตาม ฉันหวังว่าแบรนด์อย่าง Sony จะพยายามทำให้กล้องของพวกเขาทำงานง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้สำหรับคนส่วนใหญ่ตั้งแต่แกะออกจากกล่อง บางทีพวกเขาอาจจะสร้างโปรไฟล์กล้อง ‘โปร’ ที่เลือกได้ซึ่งสามารถเปิดใช้งานได้ทันที ฉันจะเปลี่ยน a7C II เป็นการตั้งค่าล่วงหน้าที่ซับซ้อนมากขึ้น หากนั่นหมายถึงอัตราการเข้าชม AF ที่ดีที่สุด

ในเรื่องนั้น ประสิทธิภาพการโฟกัสอัตโนมัติของ a7C II นั้นยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน อันที่จริง AF เป็นสิ่งที่ฉันทิ้งไว้โดยคิดภายหลังโดยสมบูรณ์เป็นเวลา 95% ของเวลาที่ฉันใช้กล้อง แต่ช็อตของฉันเกือบทุกช็อตก็คมชัดสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับดวงตา ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสุนัข
“AF was something I left as a complete afterthought for 95% of the time I used the camera”
อย่างไรก็ตาม ข้อตำหนิโดยรวมอย่างหนึ่งคือ เนื่องจากต้องถ่ายภาพท่ามกลางแสงแดดจ้ามาก บางครั้งฉันก็พยายามดิ้นรนเพื่อจัดองค์ประกอบภาพผ่าน EVF ซึ่งมีความละเอียดต่ำเล็กน้อยสำหรับรสนิยมของฉัน อย่างไรก็ตาม การเพิ่มความสว่าง EVF ให้เป็นความจุสูงสุดก็ช่วยได้เล็กน้อย

‘ห้อง Chardonnay’ ที่ Lingua Franca เป็นสถานที่พิเศษ JPEG นอกกล้อง
Sony 16-35 มม. f/2.8 GM II | ISO 1250 | 1/125 วินาที | f/2.8 | 16มม
ภาพถ่าย: “Dan Bracaglia”

ฉันหวังว่า Sony จะสามารถใช้จอแสดงผล 3.69M ดอทจาก a7 IV แทนที่จะใช้ 2.36M ดอทวันต่อไป แต่มันเป็นแผงที่ใหญ่กว่าแผงที่ใช้ที่นี่ และฉันคิดว่าต้องเสียสละบางอย่างเพื่อรักษาราคาไว้ประมาณ 2,000 ดอลลาร์และลดขนาดลง (และเพื่อให้ a7 IV มีความเกี่ยวข้อง)

ในด้านคุณภาพของภาพ ฉันไม่มีโอกาสประมวลผลไฟล์ Raw เลย เรายังรอการสนับสนุนอยู่ แต่ฉันชอบไฟล์ JPEG นอกกล้องจากกล้องตัวนี้มาก Sony ก้าวไปไกลจากสีม่วงแดงขั้นต้นและเฉดสีนกเป็ดน้ำแปลกๆ ในอดีต (2013) อย่างแน่นอน และหากเอาต์พุต IQ ของ a7 IV เป็นสิ่งบ่งชี้ ไฟล์ดิบของ a7C II ควรมีความยืดหยุ่นอย่างมากและการเก็บรายละเอียดที่ยอดเยี่ยมที่ ISO พื้นฐาน

การตรวจจับดวงตาของ Sony ยังคงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม JPEG นอกกล้อง
Sony 16-35 มม. f/2.8 GM II | ISO 100 | 1/800 วินาที | f/2.8 | 16มม
ภาพถ่าย: “Dan Bracaglia”

โดยรวมแล้ว a7C II ดูเหมือนจะเป็นการอัพเกรดที่มีความหมายมากกว่า a7C ดั้งเดิมในทุก ๆ ด้าน ส่วนใหญ่ยังคงรักษาขนาดที่กะทัดรัดเอาไว้ (สำหรับฟูลเฟรม) แม้ว่าราคาเปิดตัวจะพุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด (และน่าเสียดาย) ก็ตาม

a7C II ยังเป็นกล้องที่แย่งชิง a7 IV ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สิ่งนี้จะเป็นจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากการปรับปรุงความแม่นยำของ AF ที่เราคาดหวังนั้นเกิดขึ้นในการทดสอบของเรา นอกจากนี้ ฉันยังตั้งตารอที่จะนำ a7C II ก้าวไปอีกขั้นเพื่อดูว่ามันเทียบได้กับกล้องรุ่นล่าสุดจาก Canon, Nikon และ Panasonic ได้ดีเพียงใด จนกระทั่ง…

ที่มา : https://www.dpreview.com